รถ SUV vs PPV vs MPV เลือกซื้อรถยนต์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

แชร์ต่อ
เปรียบเทียบ รถ SUV, PPV, MPV เลือกซื้อรถครอบครัวที่ใช่

ในปัจจุบันขึ้นชื่อว่า “รถอเนกประสงค์” มีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น SUV, PPV, MPV ที่อเนกประสงค์ได้ตามการใช้งานแต่ละคน คุณสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานได้ แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อรถ คุณต้องรู้ก่อนว่าแต่ละแบบ รถ suv ppv mpv ต่างกันอย่างไร เพื่อให้คุณได้ “ตัวเลือก” ที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหา “รถอเนกประสงค์” สักคันไว้ใช้งาน MrKumka ได้ลิสต์รายละเอียดที่น่าสนใจ ความหมายของรถแต่ละแบบมาให้ ไปทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเลือกซื้อรถพร้อม ๆ กันเลย

รู้จักกับ รถ suv ppv mpv ต่างกันอย่างไร

รถอเนกประสงค์แต่ละรุ่นชื่อเรียกแตกต่าง รายละเอียดย่อมต่างกัน ทำความรู้จักรถยนต์ ข้อดี ข้อเสีย/ข้อสังเกต แต่ละแบบคืออะไร ไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าก่อนตัดสินใจซื้อรถ

รถ SUV คืออะไร ?

รถ SUV เต็ม ๆ เรียกว่า Sports Utility Vehicle ที่แปลว่า “รถสปอร์ตอเนกประสงค์” เป็นยานพาหนะที่สามารถขับแบบออฟโรดได้ และคำว่า “SUV” ยังครอบคลุมไปถึง “รถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดใหญ่” เช่น Range Rover, Chevrolet นอกจากนี้ยังรวมถึงรถยนต์ขนาดเล็กลงมาอย่าง Subaru XV, Honda CR-V, MG ZS และ Mazda CX-3 อีกด้วย

รถ SUV เปิดทางเลือกในการใช้งานของคุณได้หลากหลาย ปรับใช้กับกิจกรรมลุย ๆ แบบไร้ขีดจำกัด แต่ไม่ลืมในเรื่องความหรูหรา ซ่อนความสปอร์ต และคล่องตัว ใช้งานในเมืองได้ไม่ยากเย็นเกินไป ขับไกล ๆ ก็พร้อมฟีเจอร์ใช้งานแบบตัวท็อปของแบรนด์ ไปส่องข้อดี ข้อสังเกตของรถประเภทนี้กันก่อน

ข้อดีของรถอเนกประสงค์ SUV
  • ห้องโดยสารกว้างขวาง โดยสารไม่อึดอัด
  • ตัวรถยกสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ทำให้นั่งสะดวกสบายมากขึ้น และวิสัยทัศน์ให้การขับดีกว่าเดิม
  • สามารถขับขี่ไปในพื้นที่ลุย ๆ ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ขรุขระ เนื่องจากมีช่วงล่างที่นุ่มนวล
ข้อสังเกตของรถอเนกประสงค์ SUV
  • มีราคาค่อนข้างสูง และมีค่าบำรุงรักษาแพงกว่ารถยนต์ทั่วไป
  • SUV มีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจไม่เหมาะกับการใช้งานกะทัดรัด
  • เข้าช่องจอดอาจไม่ง่ายมากนัก
  • กินน้ำมันเพราะตัวถังหนัก

รถ PPV คืออะไร ?

รถ PPV ย่อมาจากคำว่า Pick-Up Passenger Vechicle เป็นรถอเนกประสงค์ที่ดัดแปลงมาจากโครงสร้างเดียวกับรถกระบะหรือปิคอัพ เป็นการนำรถกระบะรุ่นที่มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ หรือรุ่นยกสูง มาดัดแปลงส่วนกระบะให้กลายเป็นส่วนของห้องโดยสาร แต่พื้นฐานโดยรวม โครงสร้าง ช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อนจะไม่ต่างกับรถกระบะเดิม

ความพิเศษคือ รถ PPV เป็นชื่อเรียกที่ในประเทศไทยใช้เรียกเท่านั้น เพราะรถปิคอัพผู้ใช้งานนิยมมาก หากดัดแปลงมาเป็นรถโดยสารไร้กระบะผู้คนยังวางใจอยู่ ในประเทศไทยก็มีรถ PPV ให้เลือกมากมาย ดังนี้ Toyota Fortuner, Izuzu MU-X หรือจะเป็น Mitsubishi Pajero Sport เป็นต้น

จุดเด่นของรถยนต์อเนกประสงค์ประเภทนี้ คือ ความกว้างขวางของห้องโดยสารที่ถูกปรับมาจากพื้นหลังกระบะ สามารถบรรจุผู้โดยสารและสัมภาระต่าง ๆ ได้เยอะมาก แถมยังสามารถขับลุยไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่สมบุกสมบันได้ตามต้องการไม่แพ้ปิคอัพ เนื่องจากมีการดึงเอาจุดเด่นของรถปิคอัพ (Pick-up) คงไว้อยู่แต่รูปแบบการใช้งานต่างไปเท่านั้นเอง

ข้อดีของรถอเนกประสงค์ PPV
  • เป็นรถครอบครัวอย่างแท้จริง เพราะภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง สามารถบรรจุสัมภาระได้เยอะ
  • ตัวรถยกสูงทำให้มีทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี
  • มีโหมดการขับเคลื่อนให้เลือกปรับ ทำให้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม ลุยก็ได้ ขับในเมืองก็ดี หรือเดินทางไกลก็ไม่เป็นปัญหา
ข้อสังเกตของรถอเนกประสงค์ PPV
  • ช่วงล่างมีความแข็งกระด้างมากกว่ารถอเนกประสงค์ SUV เนื่องจากถูกพัฒนามาจากรถกระบะ

รถ MPV คืออะไร ?

รถ MPV (Multi Purpose Van) แวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เน้นการโดยสารจุผู้โดยสารได้เยอะมาก บ้านไหนไปไหนเยอะ ๆ สามารถนั่งได้ประมาณ 5-7 คน แถมยังมีพื้นที่เพียงพอต่อการใส่สัมภาระได้แบบสะใจ หากจะมองว่ารถอเนกประสงค์ประเภทนี้เป็นมินิแวนคงไม่ผิดเท่าไรนัก

ตัวอย่างรถ MPV ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Honda Freed, Honda Mobilio, Toyota Avanza, Toyota Sienta และ Mitsubishi Xpander

ข้อดีของรถอเนกประสงค์ MPV
  • ห้องโดยสารขนาดใหญ่จุใจ นั่งโดยสารได้เยอะ
  • มีที่สำหรับจัดวางสัมภาระขนาดใหญ่
  • เมื่อเทียบกับรถทั่ว ๆ ไป รถ MPV มีตัวรถเป็นทรงเหลี่ยมยกสูง ทำให้พื้นที่การใช้งานเยอะกว่า
  • ฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ มีความเหมาะสมสำหรับเด็ก แถมยังตอบโจทย์ความเป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่
  • เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากตัวรถยกสูงทำให้ผู้สูงอายุก้าวขึ้นไปบนรถได้อย่างสะดวก ไม่ต้องก้มต่ำจนเกินไป
ข้อสังเกตของรถอเนกประสงค์ MPV
  • มีราคาสูงกว่ารถทั่วไป
  • มีขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เป็นปัญหา เมื่อต้องขับบนถนนแคบ ๆ หรือตอนหาที่จอดรถ

รถ Crossover คืออะไร ?

รถ Crossover หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า รถอเนกประสงค์ Crossover Utility Vechicle เป็นรถที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถ SUV แต่มีขนาดเล็กกว่า เพราะใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Unibody หรือแชสซี และตัวถังเป็นชิ้นเดียวกันแบบเดียวกับรถซีดาน

หรือจะให้พูดง่าย ๆ เห็นภาพคือ เป็นการ “นำรถเก๋งมายกสูง” คงไม่ผิดนัก ทำให้รถชนิดที่มีความคล่องตัวกว่ารถเก๋งธรรมดาทั่วไป เนื่องจากความสูงที่พอดีและขนาดรถที่สามารถจัดเก็บสัมภาระต่าง ๆ ได้มากกว่า แต่ต้องแอบกระซิบไว้ก่อนว่ามันอาจไม่สมบุกสมบันเท่า SUV หรือรถ PPV สักเท่าไร

อีกหนึ่ง “ข้อแตกต่าง” ที่ชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบ Crossover กับ SUV คือ SUV จะมีตัวเลือกของรุ่นแบบขับเคลื่อน 4 ข้อ มาให้เลือก พร้อมตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่า ส่วน Crossover มักเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ข้อ เป็นส่วนใหญ่ แต่มีบางรุ่นที่เพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาด้วยในรถแบรนด์ยุโรป

รถในกลุ่มดังกล่าวที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Toyota CH-R, Mazda CX-3, MG ZS, Mercedes-Benz GLA และ BMW X1

ข้อดีของรถอเนกประสงค์ Crossover
  • ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ขึ้น มีพื้นที่กว้างขวางและตัวรถยกสูงกว่ารถเก๋งทั่วไป
  • มาพร้อมกับหน้าตาที่ล้ำสมัย โดนใจ และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
  • ราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับตัวถังและออฟชั่น
ข้อสังเกตของรถอเนกประสงค์ Crossover
  • ตัวถังเล็กกว่า SUV ภายในอาจอึดอัดกว่า
  • ความสมบุกสมบันอาจสู้ SUV แท้ ๆ ไม่ได้
  • ส่วนใหญ่ยังใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ข้อ ไม่เหมาะกับการใช้งานที่สมบุกสมบันเท่าไหร่

เป็นอย่างไรกันบ้าง ? สำหรับรายละเอียดของรถอเนกประสงค์ที่เรานำมาบอกต่อในวันนี้ เรียกได้ว่าให้ความสะดวกสบายแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ใด ๆ ก็คือสามารถตอบโจทย์ความเป็น “รถครอบครัว” ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะครอบครัวที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยว เดินทางไกล บอกเลยว่ามีรถอเนกประสงค์ติดบ้านเอาไว้สักคัน ไม่ผิดหวังแน่นอน

ก่อนเลือกซื้อรถอเนกประสงค์ ต้องดูอะไรบ้าง ?

ก่อนเลือกซื้อรถอเนกประสงค์ ต้องดูอะไรบ้าง

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจรถอเนกประสงค์แต่ละประเภทแล้ว ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกซื้อรถสักคัน ควรมองหารถที่สามารถ “ตอบสนองความต้องการ” กับการใช้งานส่วนใหญ่ให้ดีก่อน จะมี “วิธีดู” อะไรบ้าง ไปทำความเข้าใจกันเลย

  • 1. ดูจากระบบขับเคลื่อนของรถ

    อย่างที่บอกไปแล้วว่าในปัจจุบันรถอเนกประสงค์มีระบบขับเคลื่อน 2 แบบ คือ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หากคุณเป็นสายลุย ชอบพาครอบครัวไปทำกิจกรรมที่สมบุกสมบัน เช่น ขึ้นเขา ลุยป่า ไต่หน้าผา แบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะตอบโจทย์ได้มากกว่าเพราะมีโหมดสำหรับขับขี่แบบ Off-Road มาให้เลือกใช้ได้โดยเฉพาะรถ PPV และ SUV

  • 2. ดูจากความสูงและจุดต่ำสุดของตัวรถ

    หากคุณชอบนำรถไปลุยตามสถานที่ต่าง ๆ แน่นอนว่าสถานที่ที่ต้องการไป ย่อมมีอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย รวมถึงไปอาจต้องขับผ่านบริเวณที่เป็นโขดหินขนาดสูง ดังนั้นควรคำนึงถึง “ความสูงและจุดต่ำสุด” ของรถที่จะซื้อให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จนทำให้การเดินทางของคุณหมดสนุกได้

  • 3. ดูเรื่องดูแลรักษา

    การเดินทางไปสถานที่ที่ค่อนข้างลุย ย่อมแลกมาด้วยการที่รถของคุณ “อาจ” ได้รับความเสียหายไม่มากก็น้อย ดังนั้นควรเลือกยี่ห้อหรือรุ่นที่สามารถหาอู่ซ่อม และซื้ออะไหล่เปลี่ยนได้ง่าย เพราะจะส่งผลดีต่อการบำรุงรักษาในระยะยาว

  • 4. ดูจากกำลังของตัวรถยนต์

    การเลือกซื้อรถอเนกประสงค์ที่สมรรถนะและพละกำลัง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะ “สายลุย” เพราะการขึ้น/ไต่เขา จำเป็นจะต้องพึ่งพากำลังของตัวรถยนต์ค่อนข้างมาก เรียกได้ว่ามากพอที่จะสามารถผ่านจุดจุดนั้นไปได้อย่างง่ายดาย

รถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอีกข้อที่ต้องสังเกตเพิ่มเติมคือ เรื่องลักษณะการใช้งานของคุณด้วย เน้นใช้ในเมืองหรือวิ่งออกต่างจังหวัด ปกติโดยสารเยอะ ๆ บ่อย หรือไปไหนไปกันทั้งบ้าน เรื่องนี้ก็ไม่ควรมองข้ามด้วย ทั้ง 4 ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไป เลือกที่ถูกใจและเหมาะกับการใช้งาน ที่สำคัญคือรถไม่ว่าจะแบบไหนต้องมี “ประกันภัยรถยนต์” ติดรถไว้ อีกส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การเดินทางของครอบครัวคุณราบรื่น อุ่นใจ หากไม่รู้ว่าจะเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับที่ไหน ไว้ใจให้ MrKumka ดูแลคุณ เพราะเรายินดีมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณและคนที่คุณรักเสมอ

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่