6 เรื่องเข้าใจผิด สำหรับการดูแลรถยนต์คันแรก ที่ไม่ควรทำ

แชร์ต่อ
การดูแล รถยนต์ ที่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอด

สำหรับมือใหม่หัดขับ ดูแลรถยนต์คันแรก ใครหลายๆ คนอาจกำลัง “ทำร้าย”​ รถยนต์คู่ใจของตัวเองแบบไม่รู้ตัว! หากคุณไม่อยากพบเจอปัญหาน่าปวดหัวที่อาจจะตามมา MrKumka ได้รวบรวม ความรู้ เรื่อง รถ ที่คุณอาจจะ “เข้าใจผิด” เกี่ยวกับการดูแล รถยนต์ มาให้ทำความเข้าใจแบบเจาะลึก ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้าง? ไปติดตามพร้อมๆ กับเราได้เลย!

การดูแลรถยนต์ ที่คุณอาจเข้าใจผิดมาตลอด

เรื่องเข้าใจผิดสำหรับมือใหม่หัดขับ ดูแลรถยนต์คันแรก

เชื่อว่าหลายคนพยายามดูแลรักษารถยนต์ของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ แต่คุณรู้ไหมว่า? บางเรื่องที่คุณเข้าใจผิดอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาแบบไม่รู้จบได้ และเราก็ได้ลิสต์เรื่องต่างๆ มาให้คุณเรียบร้อยแล้ว

  • 1. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามรีวิว

    อย่างที่ทุกคนพอจะทราบกันดีว่า “น้ำมันเครื่อง” จำเป็นจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน หรือทุกๆ 8,000-10,000 กิโลเมตร ซึ่งถ้าหากคุณเปลี่ยนตามระยะที่กำหนดก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ประเด็นกลับอยู่ที่ “การเลือกน้ำมันเครื่อง” หลายคนเลือกเพราะไม่รู้ว่าควรจะเลือกน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหน แบบใด ก็เลยเลือกซื้อตามรีวิว หรือมีชุดความคิดว่า “ยิ่งแพง คุณภาพยิ่งดี”

    แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อตัวรถยนต์ของคุณแม้แต่น้อย วิธีดูแลรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนว่ารถของคุณ เหมาะสำหรับน้ำมันเครื่องแบบไหน อย่าได้คิดใช้ตามรีวิวไปซะหมด เพราะใช่ว่ารถทุกคนจะเป็นแบบเดียวกัน ใช้เหมือนกันได้เสมอไป

  • 2. จอดรถใต้ต้นไม้

    เชื่อว่าหลายคนที่รักรถคงไม่อยากจะจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ อย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่นิยมทำกันมากที่สุดคือการจอดรถไว้ใต้ต้นไม้ ซึ่งคุณรู้หรือเปล่าว่าการทำแบบนั้น มีแต่จะทำให้สีรถด่าง และไม่เงาวาวเหมือนกับวันแรกๆ ที่ซื้อรถ โดยเฉพาะ “ขี้นก” ที่นับเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สีรถของคุณด่างพร้อยได้ง่ายๆ แนะนำให้สังเกตก่อนจอดเสมอว่า พื้นที่ตรงนั้นมีร่องรอยของขึ้นเกลื่อนพื้นหรือไม่ หากว่ามีก็ควรจะหาที่จอดใหม่ดีกว่า

    ในกรณีที่ไม่สามารถเลือกได้จริงๆ (จำเป็นต้องจอด) แล้วพบว่ามีขี้นกเปรอะเปื้อนเต็มรถไปหมด ให้รีบทำความสะอาดด้วยการใช้แวกซ์เคลือบสีรถ และฟองน้ำแบบละเอียดในการขจัดคราบ อย่าได้คิดปล่อยให้คราบแห้งจนฝังลึกเด็ดขาด

  • 3. ไม่ชอบนำรถไปล้าง

    หลายคนมักคิดว่าการล้างรถบ่อยๆ จะทำให้สีรถซีด จืดจาง และไม่สดใสเหมือนวันแรกๆ จึงเลือกที่ไปล้างรถที่คาร์แคร์นานๆ ครั้ง บอกเลยว่าการทำแบบนี้มีแต่จะทำให้สีรถของคุณหมอง และพื้นผิวรถเสื่อมสภาพกว่าที่ควรจะเป็น ทางที่ดีควรรักษาความสะอาดให้รถคงความใหม่อยู่เสมอ อาจจะล้างอย่างน้อยเดือนละครั้งก็ยังดี

    นอกจากนี้ยังรวมถึงการทำความสะอาดห้องโดยสารด้วยเช่นกัน เนื่องจากภายในรถนับเป็น “แหล่งกักเก็บเชื้อโรค” ชั้นดี แม้จะไม่ได้ส่งผลเสียตัวกับรถสักเท่าไหร่ แต่รับประกันเลยว่าส่งผลต่อสุขภาพของคุณ และคนที่คุณรักที่ร่วมเดินทางไปด้วยอย่างแน่นอน

  • 4. ผลัดวันประกันพรุ่งการต่อประกันรถยนต์

    การผลัดวันประกันพรุ่งในที่นี่หมายถึงในเรื่อง “ประกันรถยนต์” หลายคนมักปล่อยให้ประกันขาดช่วง ไม่ต่อประกันล่วงหน้า เพราะมีความคิดที่ว่าอุบัติเหตุคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก หรือจะด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพคล่องทางการเงินไม่เอื้อต่อการต่อประกันรถยนต์ ซึ่งการทำแบบนี้นับเป็น “การทำร้ายรถ” อีกรูปแบบหนึ่ง แถมยังทำให้คุณต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุแบบไม่คาดคิดอีกด้วย

  • 5. เร่งเครื่องไม่รอจังหวะ

    สำหรับคนที่ชอบขับรถด้วยความใจร้อน เร่งเครื่องแบบไม่รอจังหวะ คุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าพฤติกรรมดังกล่าวคือการทำร้ายรถ! เนื่องจากจะทำให้เครื่องยนต์พังและเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

    นอกจากนี้ยังรวมถึงการไม่ชะลอความเร็ว เมื่อเจอสิ่งกีดขวางบนท้องถนนอย่าง “ลูกระนาด” ด้วย ซึ่งการทำแบบนี้มีแต่จะทำให้ช่วงล่างพังและเสื่อมสภาพเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสปริง โช้คอัพ ลูกหมาก ปีกนก และอื่นๆ เนื่องจากได้รับแรงกระแทกที่แรงจนเกินไป

  • 6. ปล่อยของเหลวในเครื่องยนต์ให้แห้ง

    การที่คุณปล่อยให้ของเหลวในเครื่องยนต์อยู่ในระดับต่ำ ไปจนถึงเหือดแห้งไม่เหลือติดก้นถังแม้แต่หยดเดียว ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ หรืออื่นๆ ให้เตรียมเงินค่าซ่อมเอาไว้ได้เลย เพราะพฤติกรรมของคุณกำลังชักนำให้รถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกตินั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่หลายคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดูแล รถยนต์ หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มีพฤติกรรมตามที่เรากล่าวไปเมื่อข้างต้น แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ ไม่อย่างนั้นรถยนต์ของคุณอาจจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมา รวมถึงมีอายุการใช้งานที่สั้นลงก็เป็นได้

การดูแลรถนับเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจให้มากๆ
และจะต้องดูและรถยนต์อย่างเหมาะสม ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป โดยเฉพาะในเรื่องของการเช็กระยะที่ควรจะเป็นไปตามที่กำหนด รวมถึง “ประกันรถยนต์” แม้จะไม่ช่วยให้คุณรอดพ้นจากอุบัติเหตุ หรือช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้นได้ แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยให้คุณ “ประหยัดเงิน” จากการแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างมาก ถ้าไม่รู้ว่าจะซื้อประกันกับที่ไหน หรือเลือกแผนประกันใด MrKumka พร้อมนำเสนอแผนประกันที่ตอบโจทย์ให้คุณแล้ว คลิกเลย!

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่