ใช้รถทุกวัน อย่ามองข้ามแค่เรื่องภาษีหรือประกันภัย เพราะสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ “ตัวคุณ” โดยเฉพาะเรื่อง ใบขับขี่ ที่แม้ไม่ต้องต่ออายุทุกปี แต่ก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน เคยสงสัยไหมว่า ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน? หรือ ใบขับขี่ขาดได้กี่วัน ก่อนจะมีค่าปรับ หรือแย่กว่านั้น อาจต้องกลับไปสอบใหม่ หากปล่อยให้หมดอายุเกินกำหนด
สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวต่อใบขับขี่หมดอายุ ไม่ว่าจะเป็นแบบทั่วไปหรือต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ อย่าลืมตรวจสอบว่า ต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง ต้องใช้เอกสารอะไรในการต่อใบขับขี่ รวมถึงใบขับขี่หมดอายุได้กี่เดือน ถึงยังสามารถต่อได้โดยไม่ต้องสอบใหม่ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมคำตอบและขั้นตอนทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อใบขับขี่หมดอายุมาไว้ให้คุณแล้ว ถ้าไม่อยากเสียเวลาและเสียเงินโดยไม่จำเป็น มาเช็กให้ชัวร์ก่อนเดินทางไปต่อใบขับขี่กันเลย!
ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน?
ขับขี่ใช้งานรถแต่ใบขับขี่หมดอายุก็ไม่ต่างกับใช้รถไม่มีใบขับขี่ เป็นเรื่องเป็นคดีได้เช่นกัน ใบขับขี่หมดอายุหากคุณปล่อยเอาไว้ ไม่รีบดำเนินการ ต่ออายุใบขับขี่ แล้วล่ะก็ จะถือว่า “มีความผิดทางกฎหมาย” โดยระยะเวลาในการต่อใบขับขี่ แบ่งออกเป็น 3 กรณี เพื่อทำการต่ออายุดังต่อไปนี้
1. ต่อล่วงหน้าได้ 6 เดือน และหมดอายุได้ไม่เกิน 1 ปี
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าใบขับขี่สามารถต่อ “ล่วงหน้า” ได้ถึง 6 เดือน ซึ่งหากใบขับขี่ของคุณยังหมดอายุไม่ถึง 1 ปี สามารถดำเนินการต่อใบขับขี่ที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย โดยจะมี “ค่าธรรมเนียม” ในการดำเนินการด้วย
2. ใบขับขี่หมดอายุไปแล้วเกิน 1 ปี แต่ยังไม่เกิน 3 ปี
ในกรณีที่ใบขับขี่ของคุณหมดอายุนานกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี คุณจะต้องทำการ “สอบข้อเขียนใหม่” โดยจะต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่า 90% หรือตอบถูก 45 ข้อ จาก 50 ข้อ เหมือนตอนที่ทำใบขับขี่ใหม่เลยล่ะ
3. หมดอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป
ในกรณีที่คุณปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุนานกว่า 3 ปีขึ้นไป คุณจะต้อง “สอบใหม่ทั้งหมด”
แม้ว่าการ ต่ออายุใบขับขี่ ช้า จะไม่มีค่าปรับก็จริง แต่ถ้าหากคุณยังนำรถออกไปใช้ตามปกติ จะถือว่าคุณทำผิดกฎหมายจราจร มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
ต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
- 1. ใบขับขี่ฉบับเดิมที่หมดอายุ
- 2. บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา
- 3. กรณีที่ต้องการเปลี่ยนระยะเวลาต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ เป็นอย่างไร?
- 1. ยื่นเอกสารและออกคำขอต่อใบขับขี่ที่กรมการขนส่งทางบก
- 2. เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่ายกาย เช่น การมองสี การมองทางลึกทางกว้าง และปฏิกิริยาการใช้เบรก
- 3. อบรมวินัยจราจร 1 ชั่วโมง
- 4. ชำระค่าธรรมเนียม
- 5. ถ่ายรูปพิมพ์หน้าบัตร
ใบขับขี่หมดอายุแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์รับผิดชอบหรือไม่?
เชื่อว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจและหลายคนอาจเป็นกังวลในการใช้รถ ซึ่ง มิสเตอร์ คุ้มค่า ขอบอกเลยว่า “ประกันยังให้ความคุ้มครองอยู่แม้ใบ้ขับขี่หมดอายุ” คุณจึงวางใจในเรื่องนี้ได้ในเรื่องความคุ้มครองหากใช้รถแล้วเกิดอุบัติเหตุ
แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ละเลยการต่อใบขับขี่ ใช้รถต้องมีขับขี่พกติดไว้เสมอ ใบขับขี่หมดอายุหากใช้รถเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจเมื่อไหร่ ก็หนีค่าปรับฐานทำผิดกฎหมายการจราจรไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นแนะนำให้ต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อยจะดีที่สุด
ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกแล้ว หากคุณไม่อยากเสียเวลาไปรอคิวนาน ก็สามารถดำเนินการผ่านช่องทางต่อไปนี้ได้เลย และถ้าหากคุณต้องการมอบความคุ้มค่าให้กับรถคู่ใจ แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อประกันรถยนต์กับที่ไหน มิสเตอร์ คุ้มค่า ช่วยคุณได้
! เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์กับผู้ให้บริการประกันรถยนต์ชั้นนำมากมายของเมืองไทยได้แล้ววันนี้ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ เพิ่มความคุ้มค่าในเรื่องประกันรถยนต์ คลิกเลยที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า