หน้าฝนแบบนี้จะเดินทางไปไหนที่เป็นต้องกุมขมับ โดยเฉพาะคนที่ต้อง ขับรถลุยฝน ที่ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับทัศนวิสัยการมองเห็นที่ลดลง ถนนลื่น ควบคุมรถได้ยาก แต่แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าจริงๆแล้ว “การขับรถหน้าฝน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่” อย่างที่ใครหลายคนคิด เพียงแต่คุณจะต้องรู้เทคนิคที่ถูกต้องซะก่อน เทคนิคมีอะไรบ้าง ? MrKumka จะเล่าให้ฟัง
อย่างที่คนใช้รถใช้ถนนทราบกันดีว่า การขับรถหน้าฝน จะทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง ดังนั้นคุณควรเปิดไฟส่องสว่างเพื่อเพิ่มการมองเห็นทางด้านหน้า และยังช่วยให้รถคันที่ตามมา สังเกตเห็นรถของคุณได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอกเป็นอันขาด เพราะลำแสงของไฟจะแยงตารถคันที่อื่น ๆ ทั้งคันที่คุณขับตามมาหรือขับสวนมาซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในช่วงที่ฝนตกใหม่ ๆ คุณควรจะลดความเร็วให้ได้มากที่สุด เนื่องจากช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่น้ำฝนผสมกับคราบน้ำมัน หรือฝุ่นต่าง ๆ บนพื้นถนน ทำให้ถนนลื่นมากกว่าปกติ ดังนั้นการขับรถให้ช้าลงจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมรถได้ง่าย แถมยังสามารถเบรกได้ดีขึ้นอีกด้วย
เมื่อคุณต้องใช้รถใช้ถนนในวันที่พื้นถนนเปียก แน่นอนว่าระบบเบรกอาจจะตอบสนองได้ไม่ดีเท่าที่ควร และการ “เหยียบเบรกกะทันหัน” ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่นัก สิ่งที่คุณควรทำคือ “ชะลอความเร็ว แล้วค่อย ๆ แตะเบรกทีละนิด” เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
การเว้นระยะห่างบนท้องถนน ถือเป็นเรื่องปกติที่ควรทำ ไม่ว่าในวันนั้นจะมีสภาพอากาศเป็นอย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าหากเป็นการขับรถหน้าฝน คุณจะต้องเว้นระยะห่างเป็น “2 เท่า” เพื่อเผื่อระยะในการเบรกบนพื้นถนนที่ค่อนข้างลื่น แถมยังเป็นการหลีกเลี่ยงน้ำที่กระเด็นมาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นด้วย
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการขับรถให้ปลอดภัยในขณะที่ขับรถลุยฝน ที่เรานำมาบอกต่อ รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนได้มากเลยใช่ไหมล่ะ ? แต่ไม่ว่าคุณจะระมัดระวัง หรือไม่ประมาทมากน้อยแค่ไหนก็ตาม “อุบัติเหตุไม่เลือกเวลาเกิด” แถมเกิดแต่ละครั้งก็เสียทั้งเวลาและเงินทอง หากคุณไม่ต้องการปวดหัวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ค่าซ่อม ค่ารักษาพยาบาล และอื่น ๆ การซื้อประกันรถยนต์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ แต่ถ้าหากไม่รู้จะซื้อประกันรถยนต์กับที่ไหน MrKumka พร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ คลิกเลย !
เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่