อยากให้รถคู่ใจได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่ค่าเบี้ยยังคงจับต้องได้ การเลือกซื้อประกันรถยนต์ ราคาประหยัดอย่างชั้น 2+ หรือ 3+ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ในท้ายที่สุดควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี ที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์และตรงใจมากกว่า มิสเตอร์ คุ้มค่า หาคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้ว ตามไปเปรียบเทียบประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจกันเลยดีกว่า
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คืออะไร คุ้มครองยังไง?
ให้การคุ้มครองแบบ “ซ่อมเราได้ ซ่อมเขาด้วย” แต่ทั้งนี้ต้องเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น ที่ดีกว่านั้นคือ ประกันประเภทนี้ยังให้ความคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วมให้กับรถของคุณอีกด้วย รวมทั้งทรัพย์สินและการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอกเมื่อผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด และจะไม่ให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ความเสียหายของกระจกรถ
- ความเสียหายของรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
- โดนชนแล้วหนี จับคู่กรณีไม่ได้
- ขับรถชนเสาไฟฟ้า แบริเออร์ หรือรั่ว
- ขับรถตกข้างทางเพราะถนนลื่น
ในส่วนของค่าเบี้ยประกันของประกันรถยนต์ชั้น 2+ ปกติจะเริ่มต้นที่ 7,500 บาท ขอย้ำอีกครั้งว่าประกันชั้นนี้ให้ความคุ้มครอง “กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนเท่านั้น” หากเกิดอะไรขึ้นนอกเหนือจากนี้ผู้เอาประกันจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด รวมถึงข้อจำกัดเรื่องอายุรถและสภาพรถด้วย
*หมายเหตุ: โดยทั่วไปประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไม่คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น พายุ น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก แต่ปัจจุบันบริษัทประกันบางแห่ง มักมอบความคุ้มครองนี้ให้เพิ่มเติมความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3+ มีอะไรบ้าง?
คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถคันเอาประกัน จากเหตุการณ์ชนกับรถยนต์คันอื่นที่ระบุตัวตนได้ (มีคู่กรณี) รวมถึงทรัพย์สินและการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก เมื่อผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด และจะไม่ให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ความเสียหายของกระจกรถ
- ความเสียหายของรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
- รถถูกโจรกรรม ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ และน้ำท่วม
ในส่วนค่าเบี้ยของประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะเริ่มต้นที่ประมาณ 6,600 บาท เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไปที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปี
ประกันรถยนต์ ราคาประหยัด เหมาะกับใคร และรถแบบใด?
หากคุณสนใจประกันรถยนต์ ราคาประหยัด ไม่ว่าจะเป็นชั้น 2+ หรือชั้น 3+ หลังจากที่ได้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ในส่วนของความคุ้มครองกันไปแล้ว มาดูกันต่อสักหน่อยดีกว่าว่าประกันทั้งสองประเภทเหมาะกับใคร และเหมาะกับรถยนต์แบบไหน เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้ตรงใจมากขึ้น
- เหมาะสำหรับรถที่มีอายุเกิน 7 ปี
- เหมาะกับคนที่ขับรถชำนาญ มีประสบการณ์ และต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน
- เหมาะกับรถไม่ค่อยได้ขับ
- หากต้องจอดในที่ที่ไม่ได้มีการรักษาความปลอดภัยมากนัก ประกันชั้น 2+ ตอบโจทย์กว่า
- แต่ถ้าที่จอดรถมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี รถไม่เสี่ยงหาย ไม่เสี่ยงไฟไหม้ ประกันชั้น 3+ ถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดได้มากกว่า
ทริคเลือกซื้อประกันรถยนต์ ราคาประหยัด
อยากได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ ราคาประหยัดอย่างตอบโจทย์ ตรงใจ ควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้นไหนดี เรารวบรวมเกณฑ์ในการพิจารณามาให้แล้ว ตามไปดูกันเลย
ประเมินอายุรถของตัวเอง
หากรถคันโปรดของคุณมีอายุไม่เกิน 15 ปี สามารถเลือกทำประกันทั้ง 2 ประเภทได้แน่นอน
สังเกตพฤติกรรมการขับขี่
ถ้าคุณมีความชำนาญในการขับขี่รถยนต์ ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ หรือเน้นจอดอยู่บ้านมากกว่าขับออกไปข้างนอก ประกันชั้น 3+ ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าหากจอดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทั้งเสี่ยงหาย เสี่ยงไฟไหม้ หรือเสี่ยงน้ำท่วม ประกันชั้น 2+ จะตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากให้ความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนนี้
พิจารณาการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก
กรณีที่คุณมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายของความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือเลือกทำประกันชั้นนี้ คุณควรพิจารณาการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกด้วย เนื่องจากจะทำให้ค่าเบี้ยประกันต่อเดือนถูกลง แต่ถ้าต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน และไม่ได้รู้สึกว่ารถของเราเสี่ยงเจออุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ สูญหาย หรือไฟไหม้ ประกันชั้น 3+ จะตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่มากกว่า
แนะนำว่าก่อนซื้อควรขอใบเสนอราคาจากหลาย ๆ บริษัทประกัน ขั้นต่ำ 2-3 เจ้า พร้อมเปรียบเทียบรายละเอียด เช่น ค่าเสียหายส่วนแรก ค่าซ่อมอู่/ซ่อมศูนย์ รวมถึงดูรีวิวบริการการเคลมว่าเร็วจริงไหม เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์มากที่สุด
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับ 3+ เลือกแบบไหนดี?
ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้รถ อายุรถ ความเสี่ยง รวมถึงงบประมาณของคุณเป็นหลัก เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้สรุปเหตุผลว่าควรเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนดีมาให้แล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เลือกประกันชั้น 2+ ถ้าหาก…
- รถของคุณมีอายุไม่เกิน 10 ปี
- มีความเสี่ยงเรื่องรถหาย ไฟไหม้
- ใช้รถบ่อย เน้นขับขี่ทางไกล เดินทางต่างจังหวัด
- อยากได้รับความคุ้มครองเพิ่มอีกนิด แต่ไม่ถึงกับต้องจ่ายแพงเหมือนประกันชั้น 1
เลือกประกันชั้น 3+ ถ้าหาก…
- รถของคุณมีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป
- ใช้รถค่อนข้างน้อย หรือเน้นจอดมากกว่าใช้งาน
- มีงบค่อนข้างจำกัด แต่ยังอยากได้ความคุ้มครองอยู่
- ต้องการความคุ้มครองเฉพาะ “เวลาโดนรถชน (ชนกับรถ)” และยังอยากให้มีค่าซ่อมรถเรา
สำหรับสายประหยัดที่ต้องการความคุ้มครองที่จำเป็นให้กับรถยนต์ การเลือกซื้อประกันรถยนต์ ราคาประหยัดนับเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ แต่แนะนำว่าควรเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละเจ้าให้ดีก่อน ทั้งในเรื่องของแผนความคุ้มครอง ค่าเบี้ย ค่าเสียหายส่วนแรก รวมถึงข้อยกเว้นต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากวนใจที่อาจตามมาในอนาคตนั่นเอง
คำจำกัดความ
แบริเออร์ | สิ่งกีดกั้น, ตัวกั้น, เครื่องกีดขวาง |
น้ำป่าไหลหลาก | เกิดจากฝนตกหนักบนภูเขา หรือ. ต้นน้ำลำธารและไหลบ่าลงที่ราบ |
พฤติกรรมเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ | การกระทำหรือการตัดสินใจที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ |