ทุนประกันรถลดลงทุกปี เรื่องใกล้ตัวที่คนมีรถมักมองข้าม

ทุนประกันรถยนต์ ดูตรงไหน?

ดูได้จากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของคุณ โดยเฉพาะ “หน้ากรมธรรม์” ซึ่งระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าจะได้รับความคุ้มครองสูงสุดเท่าไหร่ในกรณีต่าง ๆ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวมคำตอบทุนประกันรถยนต์ ดูตรงไหน มาให้คุณทำความเข้าใจเพิ่มเติม ดังนี้

• ดูจากหน้ากรมธรรม์ประกันภัย

  ด้วยการมองหาหัวข้อทุนประกันภัย, มูลค่าประกันภัย หรือบางกรณีอาจใช้คำว่าจำนวนเงินเอาประกัน ตัวเลขนี้คือ “วงเงินสูงสุดที่บริษัทจะจ่ายเมื่อรถเสียหายหนักหรือสูญหาย”

• ดูผ่านแอปหรือเว็บไซต์ของบริษัทประกัน

  ปัจจุบันหลายบริษัทมีแอปหรือเว็บให้ลูกค้า (ผู้เอาประกัน) สามารถเช็กข้อมูลได้ด้วยตัวเอง ด้วยการล็อกอินเข้าสู่ระบบ เลือกรถ/เลขกรมธรรม์ และดูข้อมูลทุนประกัน/ความคุ้มครอง

• สอบถามตัวแทนหรือโบรกเกอร์ประกัน

  ในกรณีที่คุณซื้อประกันผ่านตัวแทนหรือโบรกเกอร์ประกัน สามารถขอให้ตัวแทน/โบรกเกอร์ส่งสำเนากรมธรรม์ หรือแจ้งทุนให้ทราบได้ทันที

ทำไมทุนประกันรถยนต์ถึงลดลงทุกปี?

เนื่องจาก “รถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเสื่อมราคา” เมื่อเวลาผ่านไปมูลค่าตลาดของรถยนต์จะลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพ, อายุการใช้งาน และจำนวนกิโลเมตรที่ใช้งาน จึงเป็นเหตุให้บริษัทประกันปรับลดทุนประกันรถยนต์ให้สอดคล้องกับมูลค่าที่แท้จริงของรถ ณ ช่วงเวลานั้น ซึ่งถือเป็นข้อดี เพราะทำให้ผู้เอาประกันไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่ามูลค่าจริงของรถ

และถ้าหากสงสัยว่าตอนทำประกันควรเลือกทุนประกันรถยนต์เท่าไหร่ดี คำตอบคือควรใกล้เคียงกับ “มูลค่าปัจจุบันของรถ” มากที่สุด เพราะถ้าหากเงินทุนประกันต่ำเกินไปอาจเคลมไม่คุ้ม คุณต้องควักจ่ายส่วนต่างที่เกิดขึ้นเอง แต่ถ้าทุนสูงเกินจริงจะทำให้เสียค่าเบี้ยประกันแพงโดยไม่จำเป็น เพราะเมื่อถึงเวลาเคลมจริง บริษัทก็จ่ายตามราคาตลาดอยู่ดี โดยปกติแล้วทุนประกันมักลดลงตามค่าเสื่อมของรถ ประมาณ 10-20% หากทุนดูต่ำกว่าความเป็นจริง สามารถขอเพิ่มทุนได้

ทุนประกันรถยนต์ชั้น 1 ลดลง มีผลต่อวงเงินเคลมไหม?

มีผลแน่นอน เพราะ “วงเงินเคลมสูงสุดจะถูกจำกัดไม่เกินทุนประกันที่ระบุในกรมธรรม์” หากทุนประกันรถยนต์ชั้น 1 ลดลง วงเงินสูงสุดที่บริษัทจะจ่ายตอนเคลมก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน โดยแบ่งผลกระทบออกเป็น 3 กรณี ดังนี้

• กรณีที่ 1 รถเสียหายหนัก: บริษัทจ่ายชดเชยสูงสุดตามทุนประกันที่ลดลง ไม่จ่ายเกินจำนวนเงินทุนประกัน
• กรณีที่ 2 รถหายหรือไฟไหม้: วงเงินเคลมตามทุนใหม่ที่ลดลงเช่นกัน
• กรณีที่ 3 ซ่อมรถทั่วไป: หากค่าเสียหายเกินทุนประกัน ผู้เอาประกันต้องจ่ายส่วนต่างเอง

ทั้งนี้ หากไม่ต้องการเผชิญหน้ากับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่แจ้งเคลม โดนเฉพาะประเด็นค่าซ่อมไม่พอ ผู้เอาประกันต้องจ่ายส่วนต่างเอง ฯลฯ แนะนำให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดี ด้วยการเปรียบเทียบความคุ้มครอง ทุนประกัน และอื่น ๆ ให้ดีตั้งแต่ต้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดปัญหาที่อาจตามมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว

ป้องกันไม่ให้ทุนประกันรถยนต์ลดเร็วได้หรือไม่?

ทำได้ในระดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและวิธีการต่อประกันเป็นหลัก หากคุณกังวลว่าทุนประกันรถยนต์จะลดตามค่าสึกหรอรถเร็วเกินไป เมื่อถึงเวลาต้องเคลมเงินชดเชยอาจไม่พอซ่อม หรือไม่คุ้มกับค่าเบี้ยที่จ่ายไป มิสเตอร์ คุ้มค่า หาวิธีป้องกันไม่ให้ทุนประกันลดเร็วมาให้แล้ว ไปดูกันเลย

• 1. ขอประเมินทุนประกันใหม่ก่อนต่อประกันทุกปี

  หลายบริษัทรับตรวจสภาพรถจริงหรือใช้รูปถ่ายประกอบ หากสภาพรถยนต์ของคุณยังดี หรือมีการดูแลรักษาที่ดี ขัดรถให้เงาอยู่เสมอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน อาจขอให้ทุนประกันไม่ลดลงมากหรือปรับลดน้อยลงได้

• 2. เลือกประกันที่มีนโยบายยืดหยุ่นเรื่องทุนประกัน

  บางบริษัทเปิดโอกาสให้ผู้เอาประกันเลือกทุนประกันเอง หรือมีแผนประกันที่ปรับทุนให้น้อยลงช้า ๆ แนะนำว่าควรเปรียบเทียบข้อเสนอต่าง ๆ จากหลาย ๆ บริษัทก่อนตัดสินใจ

• 3. ทำประกันแบบทุนประกันคงที่

  ปัจจุบันมีบางแผนประกันที่ให้ทุนประกันแบบไม่ลดลงตามอายุรถ แลกมาด้วยค่าเบี้ยประกันที่แพงกว่า โดยการซื้อประกันรถยนต์ประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากรักษามูลค่ารถสูงไว้ตลอด

• 4. ดูแลสภาพรถให้ดีอยู่เสมอ

  เพราะการดูแลรถยนต์คันโปรดให้อยู่ในสภาพดีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีประวัติการซ่อมบำรุงที่ชัดเจน จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทประกันรับประเมินทุนสูงขึ้น