ข้อมูลกลุ่มรถไฟฟ้า (EV) เพื่อเลือกประกันภัยได้ดียิ่งขึ้น

กลุ่มรถไฟฟ้า (EV) | มิสเตอร์ คุ้มค่า

กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักของผู้ใช้รถในประเทศไทย ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยคาร์บอน แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวและมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ทันสมัย การทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าจะต่างจากรถที่ใช้น้ำมันทั้งในด้านความคุ้มครอง ราคา และความเสี่ยงเฉพาะที่เจ้าของรถ EV ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ

มิสเตอร์ คุ้มค่า จะพาคุณไปรู้จักเทคโนโลยีเบื้องหลังรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจัยที่มีผลต่อเบี้ยประกัน และแนวทางเลือกแผนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

รถไฟฟ้า (EV) รุ่นยอดนิยมในประเทศไทยมีอะไรบ้าง?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีล้ำสมัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต่างจากรถยนต์กลุ่มอื่น ๆ ส่งผลให้ยอดจดทะเบียน EV เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีหลายแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค ได้แก่ BYD, Neta และ MG ที่มีหลากหลายรุ่น ตอบโจทย์ทั้งด้านงบประมาณและไลฟ์สไตล์ ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะและความคุ้มค่า ส่วนกลุ่มรถหรูยังมี Tesla, Audi และ BMW ที่เข้ามาตีตลาด

รถ EV ยอดนิยมในไทย ปี 2567

  • BYD Dolphin – ยอดจดทะเบียนสูงสุด 13,386 คัน
  • BYD ATTO 3 – ยอดจดทะเบียน 7,747 คัน
  • NETA V-II – ยอดจดทะเบียน 6,587 คัน
  • MG4 Electric – ยอดจดทะเบียน 5,403 คัน
  • BYD Seal – ยอดจดทะเบียน 5,156 คัน

ยอดจดทะเบียนช่วงต้นปี 2568 (ม.ค.-พ.ค.)

มีการจดทะเบียนรถ BEV ใหม่รวม 43,681 คัน โดย 10 รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่

อันดับ
รุ่น
ยอดจดทะเบียน
1
BYD Dolphin
5,167 คัน
2
BYD Sealion7
3,957 คัน
3
MG4 Electric
3,645 คัน
4
AION V
2,967 คัน
5
GWM ORA Good Cat
2,638 คัน
6
Deepal S07
2,594 คัน
7
DENZA D9
2,151 คัน
8
BYD Atto3
2,104 คัน
9
AION HYPTCE HT
1,860 คัน
10
AION Y PLUS
1,822 คัน

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Proliance - Automotive Data Analytics Solutions

question icon

การเติบโตของรถไฟฟ้า (EV) ในไทย

รถไฟฟ้า (EV) ได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศไทย ทั้งจากผู้บริโภค ภาครัฐ และผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ การผลักดันจากนโยบายส่งเสริม EV ของภาครัฐ เช่น การลดภาษี เงินอุดหนุน และการขยายสถานีชาร์จทั่วประเทศ ทำให้ตลาด EV ไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2566 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนั่งส่วนบุคคล (xEV) ทั้งหมด 171,773 คัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากปีก่อนหน้า แบ่งออกได้ ดังนี้

  • รถ HEV (ไฮบริด) 84,366 คัน (เพิ่มขึ้น 32.9%)
  • รถ PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) 11,692 คัน (เพิ่มขึ้น 3.2%)
  • รถ BEV (ไฟฟ้าล้วน) 75,715 คัน (เพิ่มขึ้นมากถึง 690%)

ในช่วงต้นปี 2567 (ม.ค.-เม.ย.) ยอดจดทะเบียนรถ EV ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 46% เทียบกับช่วงกันในปีก่อนหน้า แนวโน้มนี้แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะรถพลังงานไฟฟ้าล้วน BEV กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศ และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568-2569

ปัจจัยหลักที่ผลักดันตลาด

  1. มาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล (EV 3.0 / 3.5)
    • เงินสนับสนุนรถ BEV 50,000-150,000 บาทต่อคัน
    • ลดภาษีนำเข้า–ภาษีสรรพสามิต
    • กำหนดให้ผู้ผลิตที่นำเข้า EV ต้องผลิดในไทย (ผลิตชดเชย)
    • ส่งเสริมการติดตั้งสถานีชาร์จทั่วประเทศ
  2. ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
  3. ต้นทุนแบตเตอรี่ลดลง ทำให้วิ่งไกลและชาร์จเร็วขึ้น
  4. รถ EV จากจีนในราคาที่จับต้องได้
question icon

คำถามสำคัญ: ใครเหมาะกับรถไฟฟ้า (EV) บ้าง?

รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้รถในไทยหลายกลุ่ม ได้แก่

  • คนที่ใช้รถในเมืองประจำ ผู้ที่ใช้รถเพื่อเดินทางในระยะใกล้หรือในเขตเมือง เช่น ขับรถไปทำงาน ไปส่งลูก หรือซื้อของในห้างฯ จะเหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างยิ่ง เพราะรถไฟฟ้าไม่มีการปล่อยมลพิษ และช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังขับเงียบและมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อย
  • ผู้ที่มีจุดชาร์จที่บ้านหรือคอนโด หากคุณสามารถติดตั้ง EV Charger ที่บ้านได้ จะช่วยให้การใช้รถไฟฟ้าสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาไปชาร์จนอกบ้านบ่อย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านส่วนตัวหรือคอนโดที่มีที่จอดรถพร้อมจุดชาร์จ
  • คนที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายระยะยาว แม้ว่าราคารถ EV อาจสูงกว่ารถน้ำมันในช่วงเริ่มต้น แต่เมื่อพิจารณาค่าพลังงานไฟฟ้าหรือค่าเชื้อเพลิงที่ถูกกว่า อาจทำให้รถ EV เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับใครหลายคน
  • ผู้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หากคุณให้ความสำคัญกับการลดปัญหาโลกร้อน การปล่อยคาร์บอน และมลภาวะในอากาศ การขับรถ EV เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสีย
  • คนรักเทคโนโลยีใหม่ ๆ รถ EV ส่วนใหญ่มาพร้อมกับระบบเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบช่วยขับอัตโนมัติ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และแอปควบคุมจากมือถือ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่
question icon

เข้าใจเทคโนโลยีของรถไฟฟ้า (EV): สิ่งที่คุณควรรู้

ก่อนตัดสินใจซื้อรถ EV คุณจำเป็นต้องเข้าใจเทคโนโลยีหลักที่ใช้ขับเคลื่อนรถ รวมถึงการปกป้องการลงทุนของคุณในระยะยาว

เทคโนโลยี EV ทำงานอย่างไร: ทำความเข้าใจองค์ประกอบหลัก

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขับเคลื่อนด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่ ชุดแบตเตอรี่ ซึ่งทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้า, มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อหมุนล้อ, และสุดท้ายคือ อินเวอร์เตอร์ ซึ่งจะเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้อยู่ในรูปแบบที่มอเตอร์สามารถนำไปใช้ได้ ทำให้การขับขี่ราบรื่นและตอบสนองได้ทันที การทำความเข้าใจองค์ประกอบเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจการทำงานของรถยนต์ EV และความแตกต่างในการทำประกันภัย

เทคโนโลยีรถ EV มีผลต่อเบี้ยประกันอย่างไร?

ราคาเบี้ยสำหรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่รุ่นหรือราคาของรถเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถคันนั้นด้วย ซึ่งมีผลต่อทั้งความเสี่ยง ความซับซ้อนในการซ่อม และต้นทุนโดยรวม ดังนี้

  1. แบตเตอรี่ความจุสูง ราคาสูง ค่าซ่อมหรือเปลี่ยนหลักแสน ทำให้ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น
  2. ระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะ มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ระบบช่วยขับ และ OTA ยิ่งซับซ้อนยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เช่น ระบบขัดข้องหรือถูกแฮ็ก
  3. การซ่อมบำรุง ต้องใช้ช่างเฉพาะทางและเครื่องมือพิเศษ หากศูนย์บริการน้อยหรืออะไหล่หายาก ค่าเบี้ยจะสูงกว่าปกติ
  4. ระบบชาร์จไฟ รถที่รองรับชาร์จเร็ว (DC Fast Charging) อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ความเสี่ยงนี้จึงถูกคำนวณในเบี้ยประกัน

ความแตกต่างของ AC กับ DC Charger: มีผลต่อความคุ้มครองประกันหรือไม่?

รถยนต์ไฟฟ้าใช้เครื่องชาร์จหลัก 2 ประเภท คือ AC Charger (ติดตั้งที่บ้าน/คอนโด) และ DC Fast Charger (สถานีสาธารณะ) ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลมและความคุ้มครองในกรมธรรม์ได้ โดยทั่วไปประกันบางแผนอาจครอบคลุมเฉพาะ Wallbox ที่ติดตั้งอย่างถูกต้องที่บ้าน ขณะที่ความเสียหายจากการใช้ DC Charger อาจไม่ถูกรวมอยู่ในเงื่อนไข หากเกิดจากการใช้งานผิดวิธี

รายการ
AC Charger
DC Fast Charger
ประเภทการใช้งาน
ใช้ชาร์จที่บ้านหรือคอนโด ผ่าน Wallbox
ใช้ชาร์จตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะ
ระยะเวลาในการชาร์จ
ประมาณ 4–10 ชั่วโมง (ขึ้นกับขนาดแบตเตอรี่)
ประมาณ 30–60 นาที
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
ความร้อนสะสม, การชาร์จผิดวิธี, ความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร
กระแสไฟแรง เสี่ยงทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
ผลต่อประกันรถ EV
ประกันบางแผนคุ้มครองเฉพาะ Wallbox ที่ติดตั้งถูกต้องตามมาตรฐาน
บางแผนอาจไม่คุ้มครองความเสียหายจาก DC หากเกิดจากการใช้งานผิดวิธี
หมายเหตุสำคัญ
บริษัทประกันบางแห่งกำหนดให้มีหลักฐานการติดตั้ง Wallbox ก่อนจึงจะคุ้มครอง
หากเกิดความเสียหายจากการชาร์จที่สถานีไม่ได้มาตรฐาน อาจไม่อยู่ในความคุ้มครอง

ผู้ใช้งานควรตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ให้ชัดเจนว่าครอบคลุมทั้ง AC และ DC Charger หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการคุ้มครองครบถ้วน

วิธีเลือกรถ EV ที่เหมาะกับคุณ

การเลือกรถ EV มีปัจจัยมากกว่าแค่การเลือกสีรถ สิ่งที่ควรพิจารณา มีดังนี้

  1. ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ: คุณขับไกลแค่ไหนในแต่ละวัน ระยะวิ่งต่อการชาร์จเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่เดินทางไกล
  2. จุดชาร์จไฟ: คุณจะชาร์จที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่สถานีสาธารณะ ต้องรู้จักประเภทหัวชาร์จ (AC, DC) และความเร็วในการชาร์จ
  3. แบตเตอรี่: หัวใจของรถ EV ควรตรวจสอบการรับประกันแบตเตอรี่ ซึ่งสะท้อนอายุการใช้งานและความมั่นใจของผู้ผลิต

ปัจจัยสำคัญในการได้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เหมาะสม

การทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถทั่วไป เนื่องจากอะไหล่และแบตเตอรี่มีราคาสูง เบี้ยประกันอาจสูงกว่า แต่ควรเลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุม สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อคุณเช็คราคาประกันภัยรถยนต์ มีดังนี้

ปัจจัยที่มีผลต่อเบี้ยประกันรถ EV
รายละเอียด
รุ่นและมูลค่าของรถ
รถ EV ระดับพรีเมียมหรือสมรรถนะสูง (เช่น Tesla, BMW i Series) มักมีเบี้ยประกันสูงกว่ารถรุ่นทั่วไป
ขนาดและอายุแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ใหม่และขนาดใหญ่มีมูลค่าสูง ค่าประกันจึงเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยง
อุปกรณ์เสริมรถ EV
เช่น EV Charger ที่ติดตั้งที่บ้าน, ระบบช่วยขับอัจฉริยะ, หรือเซนเซอร์รอบคัน อาจทำให้เบี้ยประกันเพิ่มขึ้น
ประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ
หากไม่มีประวัติอุบัติเหตุหรือการเคลมบ่อย ๆ อาจช่วยลดเบี้ยประกันได้
ประเภทความคุ้มครองที่เลือก
ประกันรถ EV ที่ครอบคลุมอย่างประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองรอบด้าน แต่มีค่าเบี้ยสูงกว่าชั้น 2 หรือ 3
question icon

เลือกประกัน EV ให้คุ้มค่า ต้องเข้าใจมากกว่าราคา

การเลือกประกันรถ EV ไม่ควรดูเพียงราคา แต่ต้องพิจารณาความคุ้มครองจริงที่ตอบโจทย์ เช่น ค่าซ่อมแบตเตอรี่ เครื่องชาร์จ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ หากคุณต้องการเปรียบเทียบแผนประกันรถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียด ผู้เชี่ยวชาญของ มิสเตอร์ คุ้มค่า พร้อมให้คำแนะนำในการเลือกความคุ้มครองที่ครบถ้วนในราคาเหมาะสม ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาได้ฟรี หรือโทร 02 080 9292

คำจำกัดความ

รถยนต์ xEV
ย่อมาจาก Electric Vehicle เป็นคำเรียกกลุ่มยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักในการขับเคลื่อน
OTA (Over-The-Air)
การอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์ของรถยนต์ผ่านเครือข่ายไร้สาย โดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ
การชาร์จเร็ว (DC Fast Charging)
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) โดยตรงเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

02 080 9292 @mrkumka
บทความที่เกี่ยวข้อง

คำแนะนำด้านประกันภัยรถยนต์โดยผู้เชี่ยวชาญ

คู่มือการประกันภัย คู่มือการเงิน รอบรู้เรื่องรถ เคล็ดลับสุขภาพ ไลฟ์สไตล์