ดูแลรถอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดให้เหมือนกับวันแรกที่ซื้อมา

แชร์ต่อ
ดูแลรถอย่างไร ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดให้

การจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันไม่ใช่เรื่องยาก แต่การดูแลรถให้เหมือนใหม่ และมีประสิทธิภาพสูงสุดเหมือนวันแรกที่ซื้อมา บอกเลยว่าทำเอาปวดหัวกันเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี ! เพราะ MrKumka ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมากให้คุณแล้ว หากอยากมีรถใหม่เงางาม และเครื่องแรงไม่มีตก ไปทำความเข้าใจวิธีการดูแลรักษาพร้อมๆ กับเราได้เลย !

5 วิธีดูแลรถ ให้เหมือนใหม่ น่าใช้เหมือนป้ายแดง

การดูแลรถยนต์ ให้เหมือนใหม่

เรามี “คำแนะนำ” และวิธีการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นแบบ “กระชับเข้าใจง่าย” มาให้คุณได้นำไปดูแลรถยนต์คู่ใจของคุณให้ดูใหม่ตลอดเวลา ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้าง? ไปดูกัน

1. เช็กระยะสม่ำเสมอ

การ “เช็กระยะ” นับเป็นสิ่งที่คนรักรถไม่ควรละเลยเด็ดขาด รถกี่ปีต้องตรวจสภาพ แนะนำให้เช็กระยะตามกำหนด เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ให้มากขึ้น โดยมีสิ่งที่ต้องเช็ก ดังนี้

ตรวจเช็กในระยะเวลา 6 เดือน
หรือทุกๆ 5,000 กิโลเมตร
  • ยางรถยนต์พร้อมกับการตั้งศูนย์ล้อ
  • น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์และไส้กรอง
  • ระบบจานเบรคและผ้าเบรคหน้า

ตรวจเช็กในระยะ 6-12 เดือน
หรือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
  • การสลับยาง
  • ระบบครัช
  • ระบบจานเบรคและผ้าเบรคหลัง
  • ที่ปัดน้ำฝน
  • ระบบช่วงล่าง
  • โช้คอัพด้านหน้าและด้านหลัง
  • น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์และไส้กรอง

ตรวจเช็กในระยะ 12-24 เดือน
หรือทุกๆ 20,000 กิโลเมตร
  • น้ำมันเกียร์
  • ระบบบังคับเลี้ยว สายพานพวงมาลัยพาวเวอร์
  • สายพานขับและสายพานเครื่องยนต์
  • ระบบบังคันชักคันส่ง ลูกหมาก ยางกันฝุ่น

ตรวจเช็กในระยะ 24 เดือน
หรือทุกๆ 40,000 กิโลเมตร
  • น้ำมันครัช
  • น้ำมันเบรครถยนต์
  • น้ำมันพวงมาลัยรถยนต์
  • น้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์
  • น้ำมันเกียร์ออโต้

นอกจากการเช็กระยะและเช็กชิ้นส่วนต่างๆ ในรถตามคำแนะนำแล้ว ในกรณีที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากหรือน้อยอย่างไรก็ตาม แนะนำให้คุณเลือกใช้ชิ้นส่วนที่มีมาตรฐาน อย่าได้ให้ความสำคัญกับของที่มีราคาถูกมากจนเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ แบบไม่จบไม่สิ้น

2. ขับขี่รถอย่างถนอม

ขับรถอย่างถนอม คำง่ายๆ ที่นิยามเข้าใจได้ไม่ยาก เช่นการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยรักษา “ความสมบูรณ์” ของเครื่องยนต์ ให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก เบรคไม่ต้องเหยียบบ่อยๆ เลี่ยงรถเสีย แถมยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยมีวิธีการขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย ดังนี้

  • ไม่แซงหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน
  • ใช้ความเร็วอย่างเหมาะสมตามเส้นทาง
  • ชะลอความเร็วหรือเบรคอย่างนิ่มนวล
  • เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากหรือตามที่กฎหมายระบุ
  • หลีกเลี่ยงการเหยียบและปล่อยคันเร่งแบบถี่ๆ

3. ดูแลยางรถยนต์

การดูแลยางรถยนต์นอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้คุณ ผู้โดยสาร และเพื่อนร่วมทางแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้มากขึ้น โดยมีวิธีการดูแลดังนี้

  • ใส่ใจสภาพถนน

    การใส่ใจสภาพถนนจะช่วยให้อายุการใช้งานของยางรถยนต์ยาวนานยิ่งขึ้น หากเส้นทางที่คุณพบเจอเป็นหลุม ถนนไม่เรียบ หรือการจอดรถใกล้กับฟุตบาทมากเกินไป แนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากๆ

  • เติมลมยางอย่างสม่ำเสมอ

    หากลมยางรถยนต์ของคุณ “ลมอ่อน” เป็นประจำ จะทำให้ “ยางสะสมความร้อน” และเกิดการระเบิดได้ง่าย แต่ถ้าหากยางของคุณ “มีลมมากเกินไป” จะทำให้ “ยางระเบิด และดอกยางเสื่อมเร็วกว่ากำหนด” แนะนำให้เช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ และเติมลมยางตามที่กำหนดในคู่มือ

  • ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

    หากยางรถยนต์ของคุณไม่ได้รับการตั้งศูนย์ถ่วงล้ออย่างถูกต้อง จะส่งผลให้ดอกยางเสื่อมสภาพไม่เท่ากัน จนทำให้ยางได้รับความเสียหายตามมา แนะนำให้ตั้งศูนย์ถ่วงล้ออย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น

4. เปลี่ยนหัวเทียน

แม้ว่าหัวเทียนรถยนต์จะเป็นชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย เนื่องจากมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี แต่ถ้าหากครบกำหนด 160,000 กิโลเมตร (โดยประมาณ) จำเป็นจะต้องเปลี่ยนหัวเทียนใหม่เสมอ หรือนำรถเข้าตรวจสภาพรถเป็นระยะ เพราะอายุการใช้งานของหัวเทียนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เครื่องยนต์ ประเภทหัวเทียนหรือยี่ห้อ รุ่น และปีของรถยนต์

5. ล้างห้องเครื่องบ้าง

การล้างหรือทำความสะอาดห้องเครื่องจะช่วยให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ดี ช่วยลดปัญหาการเกิดสนิม และยังช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สังเกตเห็นได้ว่าชิ้นส่วนใดเกิดความเสียหายบ้าง ซึ่งในส่วนนี้คุณสามารถเข้าคาร์แคร์ ศูนย์บริการรถยนต์ หรือทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะในส่วนของกรองอากาศ สายไฟ และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องระบบต่างๆ ของรถ

ทั้งหมดนี้คือวิธีการดูแลรถยนต์ของคุณให้สะอาดและเหมือนใหม่ตลอดเวลา แถมยังช่วยให้รถยนต์ของคุณมีประสิทธิภาพ ดั่งวันแรกที่ถอยออกมาจากศูนย์เลยล่ะ แม้ว่าการดูแลรถยนต์จะมีเรื่องจุกจิก และภาระค่าใช้จ่ายตามมาบ้าง แต่ก็ไม่ควรละเลยเด็ดขาด โดยเฉพาะ “การเช็กระยะ” เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจจะปวดหัวกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ที่มีมูลค่าความเสียหายมากกว่าการเปลี่ยนตามระยะก็เป็นได้

มีรถยนต์ก็เหมือนมีลูก
ต้องคอยประคบประหงมและดูแลเป็นอย่างดี เพื่อให้รถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่พังหรือเสียบ่อยจนเกินไป นอกจากนี้ควรขับขี่อย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และถ้าหากต้องการความอุ่นใจตลอดการเดินทาง อย่าลืม “ซื้อประกันรถยนต์” เอาไว้ด้วยล่ะ ! สำหรับคนที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม เบี้ยไม่แรง MrKumka มี “ตัวเลือก” ให้คุณประกอบการตัดสินใจมากมาย คลิกเลย ! MrKumka.com

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่