เคล็ดไม่ลับใช้ จีพีเอส เดินทางโดยรถยนต์ให้สะดวกขึ้นได้เป็นกอง

การทำงานของ จีพีเอส

GPS ที่หลาย ๆ คนนิยมเรียกกันสั้น ๆ แท้จริงแล้วย่อมาจากคำว่า Global Positioning System ซึ่งเป็นชื่อของ “ระบบดาวเทียม” มีหน้าที่ในการกำหนดตำแหน่งและนำทาง ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันหลายประเทศล้วนมี “ระบบดาวเทียมกำหนดตำแหน่ง” เป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน แต่จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป เช่น สหภาพยุโรปเรียกว่า Galileo / จีนเรียกว่า Beidou และรัสเซียเรียกว่า GLONASS

ดาวเทียมแต่ละดวงประกอบไปด้วย “ระบบคอมพิวเตอร์” ที่เวลาในระบบจะไม่หยุดเดินแม้แต่เสี้ยววินาที รวมถึงสามารถส่งสัญญาณวิทยุได้ตลอดเวลา จนกว่าดาวเทียมจะหมดอายุการใช้งานและร่วงลง หลักการทำงานของดาวเทียมต่าง ๆ จะโคจรตามวงโคจรของตัวเอง และเวลาที่ใช้ของดาวเทียมนั้น ๆ จะถูกเซ็ตเอาไว้แล้ว

ในส่วนของการ “ถ่ายทอดตำแหน่งและเวลา” ของดาวเทียมแต่ละดวง สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงจากตำแหน่งและเวลาจากสถานีภาคพื้นดินวันละครั้ง และจะปรับข้อมูลที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย

อุปกรณ์รับสัญญาณจีพีเอสทุกตัว ประกอบไปด้วย “จอที่สามารถแสดงแผนที่โลก” ได้ โดยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ปรากฏ จะไปแสดงให้สอดคล้องกับตำแหน่งบนแผนที่ นอกจากนี้ยังมีความสามารถเพิ่มเติม หากสามารถรับสัญญาณดาวเทียมได้ครบ 4 ดวง ข้อมูลที่ได้รับจะแสดง “ความสูง” ของตำแหน่งนั้น ๆ อีกด้วย

ประโยชน์ของ gps มีอะไรบ้าง

นอกจาก GPS จะช่วยนำทางและระบุตำแหน่งต่าง ๆ รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการเดินทางคร่าว ๆ ได้แล้ว ยังมี “ประโยชน์ของ gps” ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้

• วางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน การตั้งพิกัดสถานที่
• กำหนดจุดเพื่อบรรเทาสาธารณภัย เช่น จุดอำนวยความสะดวก จุดปลอดภัย จุดหลบภัย หรือชุดป้องกันชูชีพที่ติดเครื่องส่งสัญญาณ GPS
• ติดตามอาชญากรรม เช่น ค้ายาเสพติด ปล้น ฯลฯ
• ติดตามบุคคลในด้านการกำกับตามกระบวนการยุติธรรม เช่น บุคคลที่ต้องจับตามอง ผู้ต้องโทษ หรือผู้ต้องหา เป็นต้น
• ประโยชน์ทางด้านการทหาร โดยเฉพาะการกำหนดรายละเอียดสถานที่สำหรับสอดแนม

5 เคล็ด(ไม่)ลับ เดินทางด้วย GPS ไม่มีหลง

คุณคงเคยได้ยินข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่ามีคนขับรถหลงทางเข้าป่า หรือเกิดอุบัติเหตุเพราะใช้ GPS นำทางมาพอสมควรแล้ว หากไม่ต้องการพบเจอกับปัญหาดังกล่าว เรามีทริคดี ๆ มาบอกต่อทั้งหมด 5 ข้อ ซึ่งจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ไปดูกันเลย !

• 1. รอสัญญาณดาวเทียมให้ชัดเจน

  ในทุก ๆ ครั้งที่คุณต้องการเชื่อมต่อหรือใช้ GPS ในการนำทาง อย่ารีบร้อนเชื่อมต่อทันทีที่เปิดเครื่อง ควรรอให้สัญญาณดาวเทียมตรวจจับหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำซะก่อน เพื่อการคำนวณเส้นทางที่มีประสิทธิภาพ

• 2. เช็กจุดหมายปลายทางที่ต้องการให้ชัวร์

  ไม่ว่าจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการเดินทางไป จะอยู่ที่ไหน มีชื่อว่าอะไร สิ่งที่ควรทำมากที่สุดก่อนเดินทางคือ “ตรวจสอบให้ละเอียด” ว่าตรงกับจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการจะไปจริงหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะไปโผล่อีกสถานที่หนึ่ง ที่ไม่ใกล้จุดหมายปลายทางก็เป็นได้

• 3. ตรวจสอบเส้นทางปลายทาง

  นอกจากการตรวจสอบ “ชื่อ” สถานที่ปลายทางให้ดีแล้ว คุณยังควรตรวจสอบ “เส้นทาง” ให้ดีอีกด้วย เนื่องจากความอัจฉริยะของ GPS ที่มักคำนวณเส้นทาง ระยะเวลา ในการเดินทางที่รวดเร็วและสะดวกสบายแล้ว บางครั้งอาจพาคุณไปยัง “ถนนเส้นรอง” ด้วยเช่นกัน หากไม่คุ้นเคยเส้นทางดังกล่าว หรือเป็นเส้นทางที่เปลี่ยว อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ใช้เส้นทางหลักเสมอในการเดินทาง

• 4. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า

  หากจะบอกว่าระบบนำทาง GPS เป็นระบบที่ดี ซึ่งก็จริงแต่ใช่ว่าจะสามารถเชื่อใจได้ทั้งหมด ดังนั้นเพื่อความชัวร์ในการเดินทาง นอกจากวางแผนการใช้งาน GPS อย่างรอบคอบแล้ว อย่าลืม “วางแผนการเดินทางล่วงหน้า” เอาไว้ด้วย พยายามศึกษาเส้นทางล่วงหน้า หรือเผื่อเวลาในการเดินทางเสมอ

• 5. อัปเดตฐานข้อมูล

  ระบบนำทาง GPS จะพาให้คุณเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปล่อย ต่อเมื่อมีการอัปเดตฐานข้อมูลก่อนออกเดินทางให้เป็นปัจจุบัน เพราะอย่าลืมว่าถนนทุกเส้นในประเทศไทย “มีการเปลี่ยนแปลงไป” เช่น ยกเลิกบางเส้นทาง หรือบางเส้นทางถูกสร้างเพิ่มขึ้นมาใหม่ ฯลฯ ดังนั้นควรอัปเดตฐานข้อมูลให้สดใหม่ และเรียลไทม์อยู่เสมอ เพื่อให้การเดินทางของคุณไร้อุปสรรคมากที่สุด

ทั้งหมดนี้คือวิธีการใช้งานระบบนำทาง GPS ที่ช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น และเกิดปัญหาน้อยที่สุด แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่า “อย่าไว้ใจ GPS มากเกินไป” เพราะข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของระบบ อาจก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมาแบบไม่รู้จบได้