รู้ไว้ไม่เสียหาย ! ว่าด้วยอาการ ปวดท้องข้างซ้าย ใครว่าเป็นเรื่องเล่น ๆ ?

       “ไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” แต่ถ้าหากอาการปวดท้องข้างซ้าย ที่เป็นอยู่นั้นไม่หายสักที อาจบ่งชี้ได้ว่าร่างกายคุณกำลัง “แจ้งเตือน” ปัญหาสุขภาพบางอย่าง เนื่องจากในช่องท้องเต็มไปด้วยอวัยวะหลายส่วน เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นก็จะเกิดอาการ ปวดท้อง ที่แตกต่างกันออกไป MrKumka จึงอยากพาคุณไป “เช็กสัญญาณเบื้องต้น” ว่าปวดท้องข้างซ้ายเสี่ยงเป็นอะไร ? พร้อมกับบอกวิธีเตรียมรับมือป้องกันซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ? ไปติดตามกันได้เลย !

ด้วยความที่ช่องท้องมีหลายส่วน ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง อาจทำให้ชี้สาเหตุการปวดท้อง หรือการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นเราจึงจะพาคุณไปเรียนรู้อาการปวดท้องข้างซ้ายกันก่อน ว่ามี “ความเสี่ยง” จะเป็นโรคใดได้บ้าง ?

ปวดท้องด้านซ้าย “ส่วนบน”

• หัวใจขาดเลือด : เจ็บแน่นหน้าอก ปวดท้อง หายใจไม่อิ่ม
• เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ : เจ็บแปลบที่หน้าอก เหนื่อยง่าย
• กรดไหลย้อน : แสบร้อนกลางอก จุกแน่นในลำคอ
• ลำไส้แปรปรวน : ปวดเกร็งหน้าท้อง ท้องเสีย/ท้องผูก
• ตับอ่อนอักเสบ : ปวดท้องลามไปหลัง มีไข้ ชีพจรเต้นเร็ว ในกรณีที่ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และปวดท้องส่วนบน น้ำหนักลด อุจจาระมีกลิ่นเหม็น ในกรณีที่ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
• ม้ามโต : รู้สึกอิ่มแม้ทานอาหารน้อย ปวดหลังด้านซ้าย

ปวดท้องด้านซ้าย “ส่วนล่าง”

• ถุงผนังลำไส้อักเสบ : มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน กดท้องแล้วเจ็บ
• อาหารไม่ย่อย : ปวดท้อง แสบร้อนกลางอก ท้องอืด เรอ
• ไส้เลื่อน : ปวดตื้อ รู้สึกแน่นท้อง
• งูสวัด : ผื่นคันแนวยาวบนลำตัวข้างใดข้างหนึ่ง

*หมายเหตุ : หากผู้หญิง ปวดท้อง ด้านซ้ายส่วนล่าง เสี่ยงเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ถุงน้ำในรังไข่ ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ฯลฯ
 

แม้ว่าอาการปวดท้องข้างซ้ายหรือ ปวดท้องข้างขวาจะมีหลายสาเหตุ แต่คุณสามารถ “ลดความเสี่ยง” ให้น้อยลงได้ ดังนี้

• 1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
• 2. ออกกำลังกายเป็นประจำ
• 3. หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
• 4. ดื่มน้ำบ่อย ๆ
• 5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
• 6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สาเหตุของอาการ ปวดท้อง ข้างซ้าย มีวิธีป้องกันที่แตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ที่เหมาะสมกับสาเหตุแต่ละอย่างจะดีกว่า

อาการปวดท้องไม่ว่าจะส่วนใด ๆ ก็ตาม ใช่ว่าจะละเลยไม่สนใจ ตัวคุณเองควรสังเกตอาการเจ็บป่วยของร่างกายตัวเองอยู่เสมอ หากเกิดความปกติของร่างกายแม้เพียงเล็กน้อย แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อดำเนินการรักษาตามขั้นตอนที่ถูกต้องต่อไป หากปล่อยไว้นานอาจเรื้อรังจนสายเกินแก้ได้ ที่สำคัญ ! ควรมองหาประกันสุขภาพติดไว้ด้วย เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าอาการเจ็บป่วยของร่างกายคุณ จะมาตอนไหนและร้ายแรงเพียงใด มีประกันไว้ยังไงก็จ่ายน้อยกว่า เลือกซื้อประกันสุขภาพ มองหาความคุ้มค่า คลิกเลยที่ MrKumka.com