ประกันมะเร็งมีกี่แบบ เลือกคุ้มครองแบบไหนถึงจะเหมาะกับตัวคุณ ปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่อาจทำให้คุณเป็นโรคนี้และรักษามะเร็ง ทีมีอะไรบ้างที่คุณต้องทำ Mrkumka จะเล่าให้ฟัง
สำหรับรูปแบบของประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับโรคมะเร็ง นั้น แบ่งเป็นรูปแบบของการดูแล 2 รูปแบบหลักๆ ก็คือ แบบเมื่อตรวจเจอจ่ายเงินก้อน และ แบบค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย โดยคุณจะเลือกว่ารูปแบบของประกันสุขภาพอันไหนดี ที่จะเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความกังวลและความคุ้มครองที่คุณต้องการจะได้รับเป็นสำคัญ โดยความแตกต่างหลักๆ สำหรับทั้ง 2 รูปแบบก็คือ
รับเงินก้อนทันทีเมื่อตรวจเจอมะเร็ง ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินก้อนเพียงแค่ครั้งเดียว แต่อาจจะมีบางบริษัทที่มีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วนเพิ่มเติมให้ด้วย รวมทั้งอาจมีการจ่ายเงินชดเชยรายได้ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรรมธรรม์ สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้
กรณีที่ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แผนความคุ้มครองรูปแบบนี้จะช่วยดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา ทั้งค่าคีโม ค่าฉายรังสี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลรูปแบบอื่นๆ ซึ่งบางแห่งอาจคลอบคลุมถึงค่าห้องให้ด้วย หรือ เพิ่มวงเงินการดูแลเมื่อเข้า ICU รวมทั้งอาจมีการจ่ายชดเชยรายได้เมื่อต้องแอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย
ปัจจุบันนี้อัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และเนื้องอกทุกชนิด เป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า ในปี พ.ศ.2560 โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยเฉลี่ยถึง 120.5 คน ในทุก ๆ 100,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในอดีตเป็นอย่างมาก โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ได้แก่
โดยอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งมากขึ้นได้
พบว่ามีความสัมพันธ์ต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิด ซึ่งที่พบบ่อยๆ จะได้แก่ การเกิดมะเร็งปอด, มะเร็งช่องปากและลำคอ, มะเร็งกล่องเสียง, มะเร็งหลอดอาหาร, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ หรือมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นต้น
ส่งผลโดยตรงให้เกิดมะเร็งผิวหนัง หากได้รับ UV ในปริมาณสูงเป็นเวลานาน
ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่สูงเกิดกำหนด ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคิเมีย), มะเร็งไทรอยด์, มะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด และ มะเร็งในกระเพาะอาหาร
เช่น แอสเบโทส, เบนซิน, เบนซิดีน, แคดเมียน, นิกเกิล หรือไวนิลคลอไรด์ ถือเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง
เช่น เอชพีวี ไวรัส, ไวรัสตับอักเสบบี และ ซี, ไวรัสเอสไอวี เป็นต้น อาจส่งผลทำให้เกิดโรงมะเร็งได้
สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ป่วยบางราย
ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของสารพันธุกรรม(ยีน) แต่จากการวิจัยยืนยันว่ามะเร็งที่ถ่ายทอดทางครอบครัวนั้น พบได้เป็นส่วนน้อย
มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งช่องปากและลำคอ, มะเร็งทางเดินอาหาร, มะเร็งกล่องเสียง, มะเร็งตับ และ มะเร็งเต้านม
อย่างเช่นการกินอาหารที่มีไขมันสูง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้, มะเร็งโพรงมดลูก และมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนผู้ที่มีปัญหาความอ้วนหรือออกกำลังกายน้อย จะเสี่ยงกับการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เพิ่มยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ใช่ว่าจะเป็นมะเร็งทุกคน และเช่นเดียวกันกับผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ก็อาจเป็นมะเร็งได้เหมือนกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โรคมะเร็งน่ากลัวกว่าโรคอื่นๆ เพราะว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่กับใครก็ได้
นอกเหนือจากความเสี่ยงของปัจจัยที่ก่อให้เกิดมะเร็งที่มีเพิ่มขึ้นในปัจจุบันนี้แล้ว ในส่วนของการรักษาโรคมะเร็ง ยังมีความซับซ้อนและจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาต่อเนื่องในการรักษาจนกว่าเซลล์มะเร็งจะหมดไป หรือไม่ลุกลามแล้ว โดยมีความเป็นไปได้ที่จะต้องใช้การรักษาควบคู่กันมากกว่าหนึ่งแบบ โดยแนวทางการรักษามะเร็งที่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่
เป็นการฉายลำแสงพลังงานสูงจะทะลุผ่านผิวหนังเข้าไปยังก้อนมะเร็งและพื้นที่รอบ ๆ เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งเฉพาะจุด รวมไปถึงการฝังแร่หรือกลืนแร่ เพื่อให้สารกัมมันตรังสีออกฤทธิ์ในจุดที่มีเซลล์มะเร็งอยู่
หรือที่เรียกว่า Chemotherapy ซึ่งยาเคมีจะออกฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งหยุดเจริญเติบโตหรือแบ่งตัวได้ช้าลง เพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลามไปยังบริเวณอื่น และทำให้เซลล์มะเร็งเล็กลงในที่สุด
ใช้เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่ออกจากร่างกาย เหมาะกับการรักษามะเร็งที่เป็นก้อนเนื้อที่มีขอบเขตชัดเจน
หรือที่เรียกว่าการรักษาแบบมุ่งเป้า เป็นการให้ยาแบบที่เฉพาะเจาะจงกับชนิดของเซลล์มะเร็งแต่ละชนิด ทำให้เซลล์มะเร็งนั้นถูกทำหลายหรือหยุดเติบโตนั่นเอง
จะสังเกตได้ว่าการักษามะเร็ง นั้นมีขั้นตอนและกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลา ซึ่งแน่นอนว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษามากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษามะเร็ง จึงช่วยให้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่คุณกำลังรักษาอยู่
หากคุณเป็นกังวลว่ารูปแบบของประกันสุขภาพที่คุณเลือกมา จะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรืออาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความจำเป็นในการรักษา ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกันเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับความคุ้มครองของประกันว่ามีการดูแลค่าใช้จ่ายแบบไหนบ้าง
หมายถึง ผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป หรือที่คุณได้ยินบ่อยๆว่าการแอดมิดนั่นเอง โดยการดูแลค่าใช้จ่ายของแผนประกันสุขภาพโรคมะเร็งนั้น ต้องดูว่าออกค่าห้องให้เท่าไหร่ ต้องอ่านรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเป็นค่าใช้จ่ายแบบต่อครั้งหรือต่อคืน
หมายถึง ผู้ป่วยที่รับการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาล โดยไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งแผนประกันคุ้มครองมะเร็งที่คุณเลือกนั้นจะดูแลเฉพาะค่ารักษา หรือ ค่าบริการทางการแพทย์ต่างๆ เมื่อคุณไม่จำเป็นต้องค้างเพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ซึ่งแผนประกันสุขภาพในปัจจุบัน มักจะมีทางเลือกให้คุณซื้อประกันเสริมเพิ่มเติมจากส่วนของประกันหลักได้ แต่อย่างไรก็ตามควรเลือกพิจารณา ประกันสุขภาพ อันไหนดี ที่ประกันตัวหลักให้ความคุ้มครองในรูปแบบที่คุณต้องการ เพื่อที่คุณจะได้รับความคุ้มค่าจากประกันสุขภาพที่คุณเลือกซื้อมากที่สุดนั่นเอง
และหากคุณกำลังมองหาประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครอง โรคมะเร็ง ได้ครอบคลุมในรูปแบบที่คุณต้องการ อย่าลืมเข้ามาที่เว็บไซต์ Mrkumka.com เพื่อเปรียบเทียบ ประกันสุขภาพ อันไหนดี จากบริษัทประกันภัยชั้นนำที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเราได้แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ในรูปแบบของตารางเปรียบเทียบที่เข้าใจได้ง่าย ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการไปหาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งให้ปวดหัว ที่เดียวจบเพื่อกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ คลิกเลยที่นี่ Mrkumka.com
เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่