“ใบขับขี่” หรือใบอนุญาตขับรถ คือเอกสารสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกออกให้ เพื่อแสดงว่าคนคนนั้นมีคุณสมบัติเพียบพร้อม สามารถขับขี่รถบนถนนได้ แต่ถ้าหากคุณ ขับรถไม่มีใบขับขี่ ขึ้นมาล่ะก็ รู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ! ซึ่งเราได้ทำการรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับ “โทษ” และความคุ้มครองในส่วนของประกันภัยรถยนต์ จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย !
การขับขี่ยานพาหนะไม่ว่าจะรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือยานพาหนะอื่น ๆ โดยที่ “ไม่มีใบขับขี่” ซึ่งไม่มีในที่นี้เหมารวมถึง “มีแต่ไม่ได้พกไว้กับตัว” ด้วยเช่นกัน หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ แล้วไม่สามารถแสดงหลักฐาน (ใบขับขี่) ได้ หรือแสดงแล้วแต่ใบขับขี่หมดอายุ จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และ พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 โดยมีบทลงโทษดังต่อไปนี้
ซึ่งในปัจจุบันการใช้ข้ออ้างว่า “ลืมพกใบขับขี่มา” ไม่สามารถใช้ได้แล้ว เพราะกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้ “สามารถแสดงใบขับขี่แบบอิเล็กทรอนิกส์” หรือ “ใบขับขี่ดิจิทัล” และสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับรถได้แล้ว (ใช้ได้เฉพาะผู้ที่ถือใบขับขี่แบบสมาร์ตการ์ด ที่มี QR Code อยู่บริเวณด้านหลังเท่านั้น)
มาตรา 141 ระบุเอาไว้ว่า เมื่อผู้ขับขี่ เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถได้รับ “ใบสั่ง” มาตรา 140 แล้ว จะต้องชำระค่าปรับภายในเวลาที่กำหนด ด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนสั่งจ่ายให้แก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยสำเนาใบสั่งไปยังสถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่ง หรือโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น ผ่านธนาคารหรือหน่วยรับชำระเงิน ตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสั่ง
โดยชำระตามจำนวนที่กำหนดไว้ในใบสั่ง หรือตามจำนวนที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ และในกรณีนี้ให้พนักงานสอบสวนทุกท้องที่มีเขตอำนาจในการ “เปรียบเทียบปรับ” ได้ทั่วราชอาณาจักร เมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชำระค่าปรับครบถ้วนถูกต้อง ให้คดีเป็นอันยกเลิก
กรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนและมีคู่กรณี แต่คนขับรถไม่มีใบขับขี่ ทางประกันภัยรถยนต์จะจ่ายเงินชดเชยให้ทั้งตัวร่างกายบุคคล และทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งความคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอก มีส่วนที่ “ยกเว้น” อยู่ ดังต่อไปนี้
ในส่วนของ “ความคุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน” จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีเกิดอุบัติเหตุโดยที่คนขับไม่มีขับขี่และเป็นฝ่ายถูก กับกรณีคนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทประกันจะพิจารณาดังนี้
กรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายถูก รถยนต์ที่ทำประกันชั้น 2, 2+ และ 3+ เอาไว้ บริษัทฯ จะรับผิดชอบในส่วนค่าซ่อมของผู้ขับขี่ รวมถึงเป็นผู้เรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดเอง
แต่ถ้าหากคนขับไม่มีใบขับขี่แถมไม่มีประกันรถอีก ผู้ขับขี่จะต้องเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเองทั้งหมด รวมถึงได้รับความผิดจากกรณีที่ไม่มีใบขับขี่ตามกฎหมาย พรบ.จราจรขนส่งทางบกด้วยอีกกระทง
กรณีคนขับไม่มีใบขับขี่และเป็นฝ่ายผิด เบื้องต้นอาจต้องตรวจสอบดูก่อนว่าที่ไม่มีใบขับขี่นี่เป็นเพราะอะไร เพื่อที่ประกันจะได้พิจารณาได้ถูกต้อง ดังนี้
เห็นแล้วใช่ไหมว่า ? “ใบขับขี่” มีความสำคัญต่อการใช้รถใช้ถนน รวมถึงการเคลมประกันอย่างไรบ้าง ? ดังนั้นหากต้องเดินทางด้วยการขับขี่ยานพาหนะใด ๆ ก็ตาม ควรพกใบขับขี่ไปด้วยทุกครั้ง หากประกันรถใกล้หมด ควรรีบต่อให้เรียบร้อย นอกจากนี้อย่าลืมซื้อ เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์เอาไว้ อย่างน้อยเพื่อความอุ่นใจตลอดการเดินทาง แถมยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อยามเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย
เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่