ไม่มีใบขับขี่ เคลมประกันได้ไหม หากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

แชร์ต่อ
ตอบข้อสงสัย ไม่มีใบขับขี่ เคลมได้ไหม

หลายคนคงเคยสงสัยในประเด็นที่ว่า ไม่มีใบขับขี่ เคลมได้ไหม กันใช่ไหมล่ะ ? เพราะถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีอัตราการออกรถใหม่ป้ายแดงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมีใบขับขี่เสมอไป ด้วยปัจจัยต่าง ๆ อาทิ อยู่ในช่วงหัดขับรถเพื่อไปเตรียมสอบใบขับขี่ หรือกำลังอยู่ในช่วงรอคิวสอบ หรือแม้กระทั่งทำใบขับขี่หายแต่ยังไม่ได้ไปทำใหม่ เป็นต้น

แต่เมื่ออุบัติเหตุคือสิ่งที่ “คาดเดาไม่ได้” ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดตอนไหน ทำให้มีโอกาสที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันยามที่คุณยังไม่มีใบขับขี่ย่อมเกิดขึ้นได้กับทุกคน MrKumka จึงได้รวบรวมคำตอบมาให้คุณได้ทำความเข้าใจกัน จะเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ ? ไปติดตามพร้อม ๆ กับเราได้เลย

ตอบข้อสงสัย ไม่มีใบขับขี่ เคลมได้ไหม ?

ก่อนที่จะไปตอบคำถามว่า “ไม่มีใบขับขี่ สามารถแจ้งเคลมได้ไหม” คุณต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า ประกันภัยรถยนต์จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

  • เป็นฝ่ายถูกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนขับไม่มีใบขับขี่
  • เป็นฝ่ายผิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนขับไม่มีใบขับขี่

เป็นฝ่ายถูกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนขับไม่มีใบขับขี่

กรณีที่คนขับไม่มีใบขับขี่แต่เป็นฝ่ายถูก รวมถึงทำประกันภัย ประเภท 1, 2+ และ 3+ เอาไว้อยู่แล้ว บริษัทประกันจะรับผิดชอบในส่วนของ “ค่าซ่อม” ของผู้ขับขี่ รวมถึงเป็นตัวกลางในการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี แต่ถ้าหากคนขับไม่มีใบขับขี่ และไม่ได้ทำประกันรถยนต์เอาไว้ ผู้ขับขี่จะต้องเป็นฝ่ายเรียกร้องค่าเสียหายด้วยตัวเองทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีความผิดเนื่องจากไม่มีใบขับขี่ตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรขนส่งทางบกอีกด้วย

เป็นฝ่ายผิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนขับไม่มีใบขับขี่

กรณีคนขับไม่มีใบขับขี่ บวกกับเป็นฝ่ายผิด เบื้องต้นทางบริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบว่าไม่มีใบขับขี่เพราะอะไร เพื่อผลการพิจารณาที่ถูกต้อง ดังนี้

  • กรณีมีใบขับขี่ แต่ใบขับขี่หมดอายุ

    กรณีใบขับขี่หมดอายุ ทางบริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ของผู้เอาประกัน และของคู่กรณีด้วย

  • กรณีไม่มีใบขับขี่หรือไม่เคยสอบใบขับขี่

    ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายต่าง ๆ ทุกกรณี แต่จะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอกแทนซึ่งจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์

  • กรณีถูกยึดใบขับขี่

    ผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการคัดลอกสำนวน เพื่อนำมายืนยันกับทางบริษัทฯ เพื่อขอรับความคุ้มครองทั้งรถของผู้เอาประกันและคู่กรณี

ซึ่งจะเห็นได้ว่าต่อให้คุณเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด ประกันรถยนต์ก็ยังคงให้ความคุ้มครองอยู่ดี แต่จะคุ้มครองมาก-น้อย หรือความคุ้มครองในส่วนไหนหายไป ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เป็นสำคัญ

นอกจากจะต้องเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแล้ว คุณเองก็ควรจะให้ความสำคัญกับการพกใบขับขี่ด้วย เมื่อรู้ว่าหมดอายุก็ควรดำเนินการต่ออายุใบขับขี่ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาในอนาคต

กรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม ไม่มีใบขับขี่เคลมได้ไหม ?

หลังจากทำความเข้าใจในพาร์ทของอุบัติเหตุไปแล้ว ลำดับต่อมาเรามาดูในส่วนของกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมกันบ้างดีกว่า ซึ่งทั้ง 3 กรณีนี้ แม้ว่าคุณจะไม่มีใบขับขี่เพราะปัจจัยใด ๆ ก็ตาม บริษัทประกันภัยรถยนต์ยังคงให้ความคุ้มครองตามเดิม เนื่องจากบริษัทฯ มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถในการขับรถของผู้ขับขี่ หากคุณกำลังกังวลในส่วนนี้ สามารถปล่อยวางได้เลย เพราะรถยนต์ของคุณยังคงได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมตามเดิม (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์เป็นสำคัญ)

ไม่มีใบขับขี่ บริษัทประกันภัยจะชดเชยคู่กรณีไหม ?

ในขณะที่การเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี แต่คนขับหรือผู้เอาประกันภัยไม่มีใบขับขี่ ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะรับผิดชอบเฉพาะ “เงินชดเชย” ในด้านร่างกาย บุคคล และทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น โดยไม่สามารถเรียกเงินประกันกับผู้เอาประกันได้ แต่ยังมี “ข้อยกเว้น” บางประการ ดังนี้

  • กรณีการเกิดอุบัติเหตุ บริษัทฯ ไม่คุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกัน รวมถึงครอบครัวของผู้เอาประกันด้วย
  • ไม่คุ้มครองทรัพย์สินและสัมภาระที่อยู่ในรถ ทั้งของผู้เอาประกันและคู่กรณี
  • ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากน้ำหนักของรถยนต์ หรือน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์ เช่น ผู้ขับขี่บรรทุกของหนัก ส่งผลให้ถนนที่ขับผ่านเกิดความเสียหาย

“ความผิด” ว่าด้วยเรื่องใช้รถไม่มีใบขับขี่

ความผิดว่าด้วยเรื่องใช้รถไม่มีใบขับขี่

แม้ว่าทางบริษัทประกันจะดำเนินการตรวจสอบในเรื่อง “ไม่มีใบขับขี่” เพื่อพิจารณาการเคลมประกันรถยนต์ก่อนก็จริง แต่อย่าลืมว่าการไม่พกใบขับขี่ขณะใช้รถใช้ถนน มีความผิดทางกฎหมาย โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้

  • 1. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่

    หากไม่มีใบอนุญาตขับขี่ถือเป็น “ความผิดที่ยอมความไม่ได้” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ระบุเอาไว้ในมาตรา 64

  • 2. ไม่แสดงใบขับขี่

    สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ตัวจริงหรือสำเนา สามารถยื่นแสดง “ใบขับขี่ดิจิทัล” แทนได้ แต่ถ้าหากไม่มีหลักฐานใด ๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นที่ถือใบอนุญาตขับขี่ตัวจริง จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ตามที่ระบุเอาไว้ในมาตรา 66

  • 3. ขับรถขณะใบขับขี่หมดอายุ

    การขับขี่รถในช่วงที่ใบขับขี่หมดอายุ ถูกพักใช้ ถูกเพิกถอน หรือถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ จะต้องถูกระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามที่ระบุเอาไว้ในมาตรา 65

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การพกใบขับขี่ติดตัวเสมอ จะถือเป็น “เครื่องยืนยัน” ได้ว่าคุณมีความสามารถในการขับขี่ถูกต้องตามกฎหมาย แถมยังช่วยให้คุณอุ่นใจได้ตลอดการเดินทาง เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันทันที รวมถึงผู้โดยสารและทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถด้วย หากกำลังมองหาซื้อประกันรถยนต์ดี ๆ MrKumka พร้อมยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดให้คุณเสมอ ลองเข้ามา “เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์” กับเราก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ได้เลย !

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่