เชื่อว่าคนมีรถหลาย ๆ คนที่อยากได้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม คงเกิดความลังเลอยู่ไม่น้อยว่าควรต่อประกันชั้น 1 ปีที่ 2 ที่ไหนดี ระหว่างที่เก่า vs ที่ใหม่ เปลี่ยนแล้วจะคุ้มกว่าไหม ถ้าจะเปลี่ยนต้องรู้อะไรบ้าง มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมคำตอบที่เป็นประโยชน์มาให้แล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อมหาคำตอบว่าต่อประกันชั้น 1 ที่ไหนดีกันเลยดีกว่า
การต่อประกันชั้น 1 ปีที่ 2 สำคัญยังไง?
หลายคนที่ตัดสินใจต่อประกันชั้น 1 ปีที่ 2 แน่นอนว่าต้องการความคุ้มครองที่ต่อเนื่อง บางคนที่ไม่ต่อเพราะมองว่า “ประกันปีแรกคุ้มที่สุด” เนื่องจากมีโปรโมชั่นพิเศษจากดีลเลอร์หรือโบรกเกอร์ขายประกัน เมื่อถึงคราวต้องต่อเบี้ยประกันปีที่ 2 จะต้องควักจ่ายเองเต็มจำนวน จึงเลือกที่จะไม่ต่อ หรือหันไปต่อชั้นอื่น ๆ แทนเพราะเบี้ยถูกกว่า
แต่ถ้าหากคุณเลือกที่จะไม่ต่อแม้แต่ประเภทเดียว บอกเลยว่าคุณกำลังตัดสินใจผิดพลาด เพราะมันจะนำพามาซึ่งค่าใช้จ่ายมหาศาล หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน และการต่อประกันชั้น 1 หรือชั้นอื่น ๆ ในปีที่ 2 ก็มีข้อดีมากกว่าที่คิด ดังนี้
- ได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง
- มีทางเลือกในการปรับค่าเบี้ย เช่น เปลี่ยนประเภทประกัน หรืไม่ต้องกังวลตอนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอเลือกซ่อมห้าง/ซ่อมอู่
- รักษาสิทธิ์ส่วนลดประวัติดี (No-Claim Bonus) หากไม่มีเคลมในปีแรก
- สามารถปรับแผนให้เหมาะสมกับพฤติกรรมขับขี่ในปีที่ 2
จากข้อมูลของสำนักงานอัตราเบี้ยประกันพบว่า ประกันภัยรถยนต์ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักของอุตสาหกรรมประกันภัย คิดเป็นมูลค่า 160,986 ล้านบาท หรือประมาณ 56% ของตลาดประกันวินาศภัยทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนที่มากขึ้นถึง 2% แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้รถยนต์ ยังคงให้ความสำคัญกับการทำประกัน แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจอาจจะถดถอยก็ปรับการซื้อประเภท 1 เป็นประเภท 5 และประเภท 3 ตามลำดับ (ที่มา : สถิติประกันภัยรถยนต์ : เปิด 10 อันดับบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดปี 2567)
พาหาคำตอบ ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี?
สำหรับบางคนที่รู้สึกว่าประกันรถยนต์บริษัทเดิมไม่ค่อยตอบโจทย์ อยากจะเปลี่ยนเจ้าใหม่แต่ก็กังวลหลายอย่าง จนท้ายที่สุดก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทําประกันรถยนต์ที่ไหนดีคุ้มที่สุด มิสเตอร์ คุ้มค่า จะพาไปหาคำตอบแบบเจาะลึก
ต่อประกันชั้น 1 กับบริษัทเดิม
การเลือกอยู่กับบริษัทเดิมถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะการทำประกันกับบริษัทเดิมมานานเป็นปี แน่นอนว่าคุณทราบดีอยู่แล้วว่าบริษัทเป็นยังไง ได้รับบริการที่ดีหรือเปล่า ตอบโจทย์ความต้องการได้มากน้อยแค่ไหน แถมยังได้รับสิทธิประโยชน์ในรูปแบบ “ส่วนลด” เพราะโดยปกติแล้วการทำเบี้ยประกันใหม่ในแต่ละปี จะต้องนำรถและประวัติการขับขี่มาพิจารณาทุกครั้ง
ซึ่งหลายคนอาจเจอประสบการณ์ต่อประกันกับที่เก่าดันแพงกว่าที่ใหม่ นั่นเป็นเพราะว่าบริษัทคิดเบี้ยประกันตามเหตุการณ์ (การแจ้งเคลม) ที่เกิดขึ้นจริง แต่ถ้าหากคุณไม่มีประวัติการเคลมมาก่อน หรือเคลมบ่อยแต่เป็นฝ่ายถูกทุกครั้ง ก็มีโอกาสได้รับส่วนลดประวัติดีมาช่วยลดค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปได้
ต่อประกันชั้น 1 กับบริษัทใหม่
มีผู้เอาประกันจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจต่อประกันปีที่ 2 กับบริษัทใหม่ สาเหตุหลักคือได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีจากบริษัทเก่า แน่นอนว่าทางเลือกนี้มาพร้อมกับจุดเด่นและความเสี่ยง เพราะมักจะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ค่าเบี้ยน้อยกว่า แต่บางที่อาจแลกมาด้วยการบริการที่ไม่ดีเท่าเดิม เช่น เคลมช้า ทุนประกันน้อย ความคุ้มครองไม่ครอบคลุม ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกที่ใหม่แนะนำให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดีก่อน
ไขข้อสงสัย ประกันชั้น 2+ ต่างจากชั้น 1 อย่างไร?
ในกรณีที่คุณสับสนหรือเกิดความสงสัย ระหว่างการต่อประกันชั้น 1 ปีที่ 2 กับการต่อประกันชั้น 2+ ในปีถัดไป เพราะให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่ค่าเบี้ยถูกลงกว่ากันเยอะ แบบนี้ควรต้องเลือกแบบไหนดี ตามไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า
- ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองทุกกรณี
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองรถเรากรณีชนกับยานพาหนะทางบก (รถชนรถ) รวมถึงกรณีรถหาย ไฟไหม้เท่านั้น แต่จะไม่คุ้มครองกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือชนกับสิ่งของ
- ในส่วนของทุนประกัน ประกันชั้น 1 ให้ทุนอ้างอิงจากมูลค่าของรถจริง แต่ประกันชั้น 2+ คุณสามารถเลือกทุนประกันได้เอง ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 100,000 บาท
ด้วยความแตกต่างดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาประกันชั้น 2+ ถูกกว่าประกันชั้น 1 ค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่งก็ว่าได้ และถ้าหากถามว่าประกันรถยนต์ 2+ ราคาเท่าไหร่ ปกติแล้วจะเริ่มต้นอยู่ที่หลักพันบาทเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทุนประกันที่คุณเลือกด้วย ยิ่งทุนประกันสูงค่าเบี้ยประกันก็จะแพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ
เมื่อได้รู้ถึงความแตกต่างแล้วว่าประกันชั้น 1 ต่างจาก 2+ ยังไง และคุณตัดสินใจได้ว่าต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันใหม่ รวมถึงเปลี่ยนแผนความคุ้มครองเพื่อจ่ายค่าเบี้ยที่ถูกลง ก็มีข้อควรรู้ที่ผู้เอาประกันควรทำความเข้าใจเพิ่มเติม นอกเหนือจากประกัน 2+ ราคาเท่า ไหร่ ความคุ้มครองของแผนประกันทั้งสองแบบ แต่จะมีอะไรอีกบ้าง ตามไปทำความเข้าใจต่อด้านล่างได้เลย
กรณีรถติดไฟแนนซ์ ต่อประกันเองได้ไหม?
ต่อประกันได้ แต่คุณจะต้องยังไม่ได้เซ็นรับประกันกับบริษัทประกันกับบริษัทที่ไฟแนนซ์เลือกให้ หรือสามารถเจรจาขอใช้ประกันที่คุณเลือกเองได้ ปกติแล้วรถติดไฟแนนซ์แทบทุกคัน จะถูกเสนอประพันที่มาพร้อมกับยอดจัดไฟแนนซ์ (อาจรวมในค่างวด) แต่คุณมีสิทธิ์เลือกบริษัทเอง “หากแจ้งตั้งแต่แรกก่อนรับรถ” โดยมีข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- ต้องโอนผลประโยชน์ให้ไฟแนนซ์ในกรมธรรม์ใหม่ (ชื่อไฟแนนซ์จะอยู่ในกรมธรรม์)
- ต้องมีความคุ้มครองที่ไฟแนนซ์ยอมรับได้ (ประกันชั้น 1)
- ถ้าไฟแนนซ์ไม่ยอมให้เปลี่ยน อาจต้องเจรจา หรือเปรียบเทียบราคา/บริการกับ ประกันที่มากับไฟแนนซ์ให้ดี
ก่อนเปลี่ยนประกันเจ้าใหม่ ควรรู้อะไรบ้าง?
หากตัดสินใจดีแล้วว่าต้องการต่อประกันชั้น 1 ปีที่ 2 กับบริษัทใหม่ แนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนจ่ายค่าเบี้ยประกันทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ไตร่ตรองอะไรเลย จำไว้ว่า “บริษัทประกันที่เสนอราคาดีที่สุด อาจไม่ใช่บริษัทที่ถูกที่สุดในตอนนี้” หากอยากได้ความคุ้มค่าแบบคุ้ม ๆ ควรรู้ข้อมูลสำคัญต่อไปนี้ก่อน
1. ตัวเลือกความคุ้มครอง
ก่อนตัดสินใจว่าควรต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี อันดับแรกให้เช็กตัวเลือกความคุ้มครองรถยนต์ให้ดี เพราะมักมีการประกันความรับผิด ประกันการชน และความคุ้มครองที่ครอบคลุม จำเป็นต้องเช็กให้แน่ใจว่าบริษัทประกันสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างถูกจุด
2. ค่าเสียหายส่วนแรก
ทำความเข้าใจก่อนว่าค่าเสียหายส่วนแรก คือ จำนวนเงินที่คุณต้องรับผิดชอบในการชำระล่วงหน้า ก่อนที่บริษัทประกันจะชำระค่าเสียหายอื่น ๆ ในภายหลัง ยิ่งคุณเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกสูงเท่าไหร่ ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น
3. ราคาเบี้ยประกัน
เหนือสิ่งอื่นใดผู้เอาประกันควรเช็กราคาเบี้ยประกันให้ชัดเจน เพราะเป็นจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อซื้อความคุ้มครอง ซึ่งราคา ประกันภัย รถยนต์ชั้น 1 ทุกบริษัทจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทรถ อายุรถ ประวัติการขับขี่ ฯลฯ ทั้งนี้ควรหาบริษัทประกันภัยที่มีความสมดุลระหว่างความคุ้มครองและต้นทุนที่คุณมี
4. การชดเชย และการบริการ
สำรวจให้ดีว่าการชดเชยและการบริการของบริษัทใหม่ เป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ โดยเฉพาะขั้นตอนในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินการเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
5. สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
สิ่งสุดท้ายควรเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการรถทดแทน บริการรถยก รถสไลด์ รวมถึงการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ให้ดีก่อน เพราะคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าสิทธิประโยชน์ที่ถูกเสนอนั้น เป็นประโยชน์มากแค่ไหน
เปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปีได้ไหม?
คำตอบคือ ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพึงพอใจของเจ้าของรถ/ผู้เอาประกันเป็นหลัก แถมยังสามารถเปลี่ยนก่อนหรือหลังทำประกันก็ได้ เพียงแต่ถ้าเลือกที่จะเปลี่ยนหลังจากทำประกันไปแล้ว อาจต้องมีการจัดส่งเอกสารเพื่อ “ขอยกเลิกกรมธรรม์ และรับเงินคืน” และแน่นอนว่าคุณอาจจะไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวนจากบริษัทประกัน ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นไปตามข้อกำหนดของ คปภ. แนะนำให้ศึกษาหรือสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจเวนคืนกรมธรรม์
การที่คุณจะเกิดความสงสัยก่อนต่อประกันรถยนต์ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใคร ๆ ก็มักคิดหนักเมื่อต้องต่อประกันชั้น 1 ปีที่ 2 กันทั้งนั้น โดยเฉพาะการพยายามหาคำตอบอย่างถี่ถ้วนว่าทําประกันรถยนต์ที่ไหนดีคุ้มที่สุด แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน แนะนำให้เปรียบเทียบรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อน ทั้งในเรื่องของค่าเบี้ย ความคุ้มครอง บริการหลังการขาย ฯลฯ เพื่อให้การตัดสินใจของคุณมีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการมากที่สุด
คำจำกัดความ
ซ่อมห้าง | การนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการรถยนต์ของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ |
ประกันความรับผิด | เป็นประกันภัยธุรกิจประเภทหนึ่งที่ครอบคลุมการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการบาดเจ็บและความเสียหายต่อบุคคลและทรัพย์สิน |
ความสมดุล | ความเท่ากันเสมอกัน มีน้าหนัก หรือความกลมกลืนพอเหมาะพอดี |