ใช้รถบ่อยต้องรู้เปลี่ยนเลนแล้วโดนชน ใครผิด เคลมประกันได้ไหม?

ว่าด้วยเรื่องกฎจราจรการเปลี่ยนเลน มีอะไรที่ต้องรู้บ้าง?

การเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ปลอดภัย ถือเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง โดยมีรายละเอียดที่จำเป็นต้องรู้ดังนี้

• กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • มาตรา 43 : ผู้ขับขี่ต้องเปลี่ยนช่องจราจรเมื่อเห็นว่าปลอดภัย และให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนเปลี่ยนเลนไม่น้อยกว่า 60 เมตร สำหรับพื้นที่ทั่วไป และไม่น้อยกว่า 30 เมตร สำหรับเขตชุมชน
  • มาตรา 152 : ห้ามขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวต่อชีวิตหรือทรัพย์สินผู้อื่น

• บทลงโทษ

  • เปลี่ยนเลนกะทันหัน ค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท (ตามมาตรา 157) หากเปลี่ยนเลนโดยไม่ให้สัญญาณหรือไม่ปลอดภัย
  • หากก่อให้เกิดอุบัติเหตุอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม เช่น ประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท

• กรณีเกิดอุบัติเหตุ

  • ผู้ที่เปลี่ยนเลนกะทันหันมักเป็นฝ่ายผิด เนื่องจากละเมิดมาตรา 43 และ 152
  • หากไม่มีหลักฐานชัดเจน เช่น กล้องหน้ารถ อาจพิจารณาจากร่องรอยการชนและสภาพแวดล้อม

• ข้อยกเว้น

  • เหตุฉุกเฉิน : เช่น หลบสิ่งกีดขวางบนถนน แบบนี้ไม่ถือว่าผิดแต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่มีทางเลือก
  • รถฉุกเฉิน : ต้องเปิดทางให้รถพยาบาลหรือรถดับเพลิง

การเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือการขับขี่โดยไม่สนใจทางเดินรถของตัวเอง มักนำพามาซึ่งอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 กล้องวงจรปิดบนมอเตอร์เวย์สาย 9 จากบางพลีมุ่งหน้าบางปะอิน เวลา 08.20 น. แสดงให้เห็นว่ารถกระบะสีดำได้วิ่งออกมาจากด่านเก็บเงินแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนมาเลนขวา ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวกับที่รถ BMW สีขาววิ่งมาในเลนขวาสุด ทำให้รถกระบะสีดำเหมือนกับปาดหน้าและเบียดรถ BMW ตรงช่วงทางเบี่ยงพอดี (ที่มา : เปิดวงจรปิดลุงขับกระบะเปลี่ยนเลน ก่อน BMW ขับปาด โซเชียลเสียงแตก ใครผิดกันแน่?)

จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมมากมาย ซึ่งเสียงก็แบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน แล้วถ้าหากเป็นคุณที่ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ จะรู้ได้ยังไงว่าใครถูก ใครผิด มิสเตอร์ คุ้มค่า หาคำตอบมาให้แล้ว ตามไปทำความเข้าใจกันต่อด้านล่าง

เปลี่ยนเลนแล้วโดนชน ใครผิด?

แบ่งได้ 3 กรณี คือ กรณีรถที่เปลี่ยนเลนเป็นฝ่ายผิด, กรณีรถที่อยู่ในเลนเดิมเป็นฝ่ายผิด และกรณีทั้งสองฝ่ายมีส่วนผิด (ประมาทร่วม) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• 1. กรณีรถที่เปลี่ยนเลนเป็นฝ่ายผิด

  หากรถของคุณคือคันที่เปลี่ยนเลน แล้วเกิดอุบัติเหตุรถชนกับรถที่อยู่ในเลนเดิม แน่นอนว่าคุณจะถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิด เนื่องจากคุณมีหน้าที่ต้องให้ทางและตรวจสภาพแวดล้อมก่อนเปลี่ยนเลน โดยพฤติกรรมที่ชี้ชัดว่าคุณเป็นฝ่ายผิดมีดังนี้

  • เปลี่ยนเลนกะทันหันโดยไม่มีระยะห่างที่ปลอดภัย
  • เปลี่ยนเลนในเขตเส้นทึบ หรือบริเวณที่ห้ามเปลี่ยนเลน
  • ไม่เปิดไฟเลี้ยวแจ้งเตือนก่อนเปลี่ยนเลน
  • ไม่ตรวจสอบจุดบอดก่อนเปลี่ยนเลน

• 2. กรณีรถที่อยู่ในเลนเดิมเป็นฝ่ายผิด

  แม้ว่าการเปลี่ยนเลนจะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง แต่ก็มีบางกรณีที่รถในเลนเดิมเป็นฝ่ายผิดได้เหมือนกัน เช่น

  • รถคันที่อยู่ในเลนขับกินเลนออกมาโดยไม่ระวัง
  • รถในเคนขับมาด้วยความเร็วสูงผิดปกติ
  • รถคันที่อยู่ในเลนพยายามแซงผิดกฎหมาย หรือขับจี้ท้ายมากเกินไป

• 3. กรณีทั้งสองฝ่ายมีส่วนผิด (ประมาทร่วม)

  หรือบางสถานการณ์ก็อาจทำให้รถทั้งสองฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน ดังนี้

  • รถในเลนเดิมเปลี่ยนช่องทางในขณะเดียวกันกับรถที่กำลังเปลี่ยนเลน ทำให้เกิดการชน
  • รถที่เปลี่ยนเลนไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว แต่รถในเลนเดิมขับมาด้วยความเร็วสูง และไม่สามารถเบรกได้ทัน

รถโดนชนท้ายเพราะเปลี่ยนเลน ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง?

ทุกชั้น แต่จะคุ้มครองทั้งเขาทั้งเรา หรือแค่เขา (คู่กรณี) ฝ่ายเดียวขึ้นอยู่กับแผนประกันที่คุณซื้อไว้ โดยแต่ละแผนให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน ดังนี้

• ประกันชั้น 1 : ให้ความคุ้มครองไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ซึ่งถ้าหากคุณเป็นฝ่ายผิด ประกันจะจ่ายค่าซ่อมรถให้ทั้งฝ่ายคุณและคู่กรณี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใด ๆ
• ประกันชั้น 2+ และ 3+ : คุ้มครองแบบซ่อมเขา ซ่อมเรา โดยบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งรถของคุณและรถคู่กรณี
• ประกันชั้น 2 และ 3 : คุ้มครองค่าซ่อมรถของคู่กรณีเท่านั้น ส่วนรถคันที่เอาประกันคุณจะต้องจ่ายค่าซ่อมเองทั้งหมด

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง คุณไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่ารถโดนชนท้าย ซ่อมเท่า ไหร่ เพราะมันขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่เกิดขึ้น ณ สถานการณ์นั้น ๆ หากไม่อยากกังวลเรื่องรถโดนชนท้าย ซ่อมเท่าไหร่ โดยเฉพาะคนที่ทำประกันแบบซ่อมเขา (ชั้น 2 และ 3) แนะนำให้เลือกซื้อประกันแผนใหม่ที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์มากกว่าเดิม ด้วยการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดีก่อน เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณอุ่นใจได้ตลอดการเดินทางแล้ว

ไขข้อสงสัย รถถูกชนท้าย เรียกร้องอะไรได้บ้าง?

มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีได้หลายส่วน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วย ซึ่งหลัก ๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันตามไปดูกันเลยดีกว่าว่าโดนชนท้าย เรียกร้องอะไรได้บ้าง

• สิทธิ์การรักษาพยาบาล

  ถ้าได้รับบาดเจ็บจากการโดนรถชนท้าย คุณมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากคู่กรณีได้ หรือสามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทประกันได้เช่นกัน

• ค่าเสียหายจากการบาดเจ็บ (ค่าทดแทน)

  • ค่ารักษาพยาบาล : ค่ารักษาที่เกี่ยวกับการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุ
  • ค่าทดแทนความเสียหายทางร่างกาย : อาจรวมถึงค่าทดแทนจากการบาดเจ็บ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายทางร่างกาย เช่น การสูญเสียสมรรถภาพบางอย่าง หรือการสูญเสียการทำงานบางส่วน
  • ค่าทดแทนความเสียหายทางจิตใจ : หากถามว่าโดนรถชนเรียกค่าทําขวัญเท่าไหร่ดี ในส่วนนี้จะประเมินเป็นตัวเงินที่ชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตกลงกันของทั้งสองฝ่าย หรือดุลยพินิจของศาล

• สิทธิ์การเรียกร้องค่าเสียหายจากทรัพย์สิน

  เมื่อรถของคุณได้รับความเสียหาย สามารถเรียกร้องค่าซ่อมแซมจากคู่กรณีได้ หรือจะเรียกจากประกันภัยของฝ่ายคู่กรณีก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังรวมถึงค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ชุดแต่งรถยนต์ อะไหล่รถยนต์แต่ง หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เสียหายจากการโดนชน

• สิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้

  กรณีที่คุณไม่สามารถทำงานหรือหารายได้ได้ เพราะรถโดนเฉี่ยว มีคู่กรณี รวมถึงต้องหยุดงานเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ขาดรายได้ สามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียรายได้ได้เช่นกัน