เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิเบิก พ.ร.บ. รถยนต์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และค่าชดเชยต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือแม้แต่คนเดินถนนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่มี ‘รถยนต์’ เข้ามาเกี่ยวข้อง มิสเตอร์ คุ้มค่า จะพาไปเจาะลึกว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เบิกอะไรได้บ้าง แบบละเอียด เข้าใจง่าย พร้อมคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ถ้าพร้อมแล้วตามไปทำความเข้าใจกันเลย
พ.ร.บ. รถยนต์ คืออะไร เบิกอะไรได้บ้าง?
พ.ร.บ. รถยนต์ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นกฎหมายที่บังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยภาคบังคับ โดยมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้ที่ประสบภัยจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลภายนอก สิทธิประโญชน์จาก พ.ร.บ. รถยนต์ ครอบคลุมความคุ้มครองหลัก ๆ ดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาล: สูงสุด 80,000 บาท/คน
- ค่าปลงศพ: 35,000 บาท
- ค่าชดเชยรายวัน: 200 บาท/วัน ไม่เกิน 20 วัน
- ทุพพลภาพหรือเสียชีวิต: สูงสุด 500,000 บาท
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่สงสัยว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เบิกอะไรได้บ้าง สรุปสั้น ๆ ว่าเบิกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและร่างกาย ไม่รวมค่าเสียหายต่อทรัพย์สินนั่นเอง
เบิกค่ารักษาพยาบาล พ.ร.บ. ได้ที่ไหน?
การเบิก พ.ร.บ. หรือการขอรับสิทธิค่ารักษาพยาบาลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นสิทธิที่ผู้ประสบเหตุทางรถยนต์สามารถใช้ได้ โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิด ผู้ที่สงสัยว่าเบิกค่ารักษาพยาบาล พ.ร.บ. ได้ที่ไหน คำตอบคือสถานพยาบาล บริษัทประกันภัย หรือสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีจำเป็น โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ติดต่อบริษัทประกันที่ออกกรมธรรม์ พ.ร.บ. รถยนต์ ของคุณเป็นอันดับแรก
- ถ้าเจ้าหน้าที่แนะนำให้เบิก พ.ร.บ. บริษัทกลาง ให้ไปยังสำนักงานที่หน่วยงานกลางกำหนด (อาจเป็นสำนักงานกระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดังกล่าว)
- บางครั้งโรงพยาบาลที่คุณไปรักษา เช่น โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนใหญ่ อาจมีฝ่ายเคลมหรือประสานงานกับบริษัทให้โดยตรง คุณสามารถให้โรงพยาบาลช่วยดำเนินเรื่องได้ (แต่อาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม)
เพื่อความอุ่นใจและความคุ้มครองที่ครอบคลุม ควรศึกษารายละเอียดกรมธรรม์ และเปรียบเทียบประกันรถยนต์หลาย ๆ บริษัทก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่เพียงแต่เฉพาะ พ.ร.บ. รถยนต์ เท่านั้น แต่รวมถึงประกันภัยภาคสมัครใจที่ให้ความคุ้มครองในกรณีอื่น ๆ ด้วย
กรณีไหนที่ต้องเบิก พ.ร.บ. บริษัทกลาง?
หลังจากรู้แล้วว่าประกันภาคบังคับ คือ อะไร จากนี้มาทำความเข้าใจกันต่อว่าการเบิก พ.ร.บ. บริษัทกลาง คือ การเบิกค่าใช้จ่ายจาก ‘สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง’ หรือหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่รวบรวมเงินเบี้ยประกันจากบริษัทต่าง ๆ ซึ่งบริษัทประกันส่งเงินไปเพื่อใช้ในการชำระค่าสินไหมทดแทน พ.ร.บ.
โดยบริษัทประกันที่คุณซื้อ พ.ร.บ. กับบริษัทนั้น จะรับผิดชอบดำเนินการเบิกให้ แต่จะประสานกับบริษัทกลางเพื่อจ่ายจริง โดยปกติผู้ประสบภัยไม่ต้องติดต่อบริษัทกลางเองโดยตรง แต่ในบางกรณี เช่น บริษัทประกันล้ม หรือมีปัญหากับผู้เสียชีวิต ครอบครัวอาจต้องไปติดต่อเบิก พ.ร.บ. รถยนต์กับบริษัทกลางเอง
เบิก พ.ร.บ. ใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนเป็นยังไง?
เพื่อให้การเบิก พ.ร.บ. รถยนต์ราบรื่น สิ่งสำคัญคือเตรียมเอกสารให้ครบและชัดเจน และทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องครบถ้วน โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ และขั้นตอนเบิก พ.ร.บ. รถยนต์จะมีอะไรบ้าง? ตาม มิสเตอร์ คุ้มค่า ไปดูพร้อม ๆ กันเลย
เอกสารที่ต้องเตรียม
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบเหตุหรือผู้เรียกร้อง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบขับขี่
- สำเนาเอกสารประกัน พ.ร.บ. รถยนต์ (กรมธรรม์หรือใบเสร็จ)
- ใบรับรองแพทย์ หรือประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล
- หลักฐานการเสียชีวิตหรือพิการถาวร (ถ้ามี) เช่น สูติบัตร ใบมรณบัตร หรือใบรับรองแพทย์
- เอกสารแสดงค่าใช้จ่าย เช่น ใบเสร็จค่ารักษา ใบค่าใช้จ่ายสำหรับผู้บาดเจ็บ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- เอกสารอื่น ๆ ตามที่บริษัทประกันหรือบริษัทกลางกำหนด เช่น ใบมอบอำนาจ (ถ้าไม่สะดวกรับเรื่องด้วยตัวเอง)
-
ขั้นตอนการเบิก พ.ร.บ. รถยนต์
แจ้งเคลมกับบริษัทประกันหรือไปสำนักงานบริษัทกลาง
- ติดต่อแจ้งเหตุกับบริษัทประกันที่มีกรมธรรม์ พ.ร.บ. รถยนต์
- หากบริษัทประกันระบุให้ไปเบิก พ.ร.บ. บริษัทกลาง ก็ไปดำเนินการที่หน่วยงานกลางที่กำหนด
ยื่นเอกสาร
- เตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบถ้วน ทั้งสำเนาและต้นฉบับ (บางแห่งอาจต้องยื่นสำเนาพร้อมแสดงต้นฉบับ)
พิจารณาและตรวจสอบสิทธิ์
- เจ้าหน้าที่จะตรวจเอกสารว่าครบหรือไม่
- มีบางกรณีที่อาจต้องสอบถามเพิ่มเติม เช่น ความถูกต้องของข้อมูล หรือสภาพอุบัติเหตุ
ประเมินวงเงิน
- บริษัทประกันหรือบริษัทกลางจะประเมินว่าคุณมีสิทธิ์เบิก พ.ร.บ. รถยนต์ ในส่วนใดบ้าง เช่น ค่ารักษา ค่าชดเชยเสียชีวิต/พิการ
การอนุมัติ (พิจารณาเบื้องต้น)
- ขั้นตอนนี้มักใช้เวลาตรวจสอบ ว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขและเอกสารครบ
- หากผ่าน จะมีการแจ้งเบื้องต้นว่าได้รับการอนุมัติหรือไม่
การตรวจสอบโดยหน่วยงานกลาง (หากต้องเบิก พ.ร.บ. บริษัทกลาง)
- เอกสารจะถูกส่งไปยัง ‘หน่วยงานกลาง’ เพื่ออนุมัติขั้นสุดท้ายและจ่ายเงิน
การได้รับเงินชดเชย
- เมื่ออนุมัติแล้ว จะได้รับเงินตามยอดที่ได้รับการพิจารณา
หากคุณสงสัยว่าเบิก พ.ร.บ. กี่วันได้เงิน? โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 15-30 วันทำการ หลังจากยื่นเอกสารครบถ้วน กรณีเรียกร้องทั่วไป เช่น ชดเชยพิการ/เสียชีวิต อาจใช้เวลาเร็วกว่านั้นประมาณ 7-15 วัน แต่ถ้าสถานการณ์ซับซ้อน เช่น ต้องติดต่อหน่วยงานอื่น เอกสารไม่ครบ อาจใช้เวลานานกว่านั้น 1-2 เดือน
คลายข้อสงสัย ไม่มีใบขับขี่เบิก พ.ร.บ. ได้ไหม?
หลายคนอาจสงสัยว่า หากเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่มีใบขับขี่ เบิก พ.ร.บ. ได้ไหม? ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมักเข้าใจผิด เพราะแม้จะไม่มีใบขับขี่ แต่ก็ยังมีโอกาสได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย (ในบางกรณี) ดังนี้
- หาก “ผู้ประสบภัยไม่ได้เป็นผู้ขับรถ” แต่เป็นผู้โดยสารหรือบุคคลภายนอกที่ประสบเหตุจากรถยนต์ ไม่มีใบขับขี่จะไม่เป็นอุปสรรคอะไรเลย
- แต่ถ้า “ผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับขี่” อาจส่งผลต่อการพิจารณาของบริษัทประกันบางแห่ง เนื่องจากฝ่าฝืนกฎจราจร แต่ในบริบทของ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่เน้นคุ้มครองผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต (ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ขับ) บริษัทประกันส่วนใหญ่ยังพิจารณาชดเชย ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์และกฎหมาย แม้ว่าจะไม่มีใบขับขี่ก็ตาม
ทั้งนี้ เพื่อความชัวร์ ควรติดต่อบริษัทประกันหรือสำนักงานบริษัทกลางโดยตรง เพื่อสอบถามกรณีตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจะดีที่สุด รวมถึงเช็กให้ดีว่าใบขับขี่ขาดได้กี่วัน หรือแม้จริงแล้วไม่ควรขาดเลยแม้แต่วันเดียว
การเบิก พ.ร.บ. รถยนต์ ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจขั้นตอนและรู้ว่าเบิก พ.ร.บ. ใช้เอกสารอะไรบ้างอย่างชัดเจน โดยสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยอื่น ๆ ได้ตามสิทธิ์ แม้ไม่ใบขับขี่ก็ยังเบิกได้ (ในบางกรณี) ผู้ขับขี่หรือผู้เสียหายควรตรวจสอบรายละเอียดกับบริษัทประกัน หรือบริษัทกลางให้ดี พร้อมติดตามสถานะการเบิกเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่และรวดเร็ว
คำจำกัดความ
| บริษัทกลาง | องค์กรที่ตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อเป็นศูนย์กลางการรับแจ้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ จ่ายค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ. ให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถ และให้บริการเกี่ยวกับประกันภาคบังคับแก่ประชาชน |
| สถานการณ์ซับซ้อน | สภาวะหรือปัญหาที่มีหลายปัจจัยหลายเรื่องเชื่อมโยงปะปนกันอยู่ ยุ่งยาก สับสน ทำให้ยากแก่การทำความเข้าใจ จัดการ หรือแก้ไข |
| บริบท | สภาพแวดล้อมหรือเงื่อนไขที่รายล้อมเหตุการณ์ ข้อความ หรือประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ซึ่งช่วยให้เราสามารถตีความและทำความเข้าใจความหมายได้อย่างถูกต้องและลึกซึ้งยิ่งขึ้น |
