เมื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ทำให้การซื้อประกันภัยรถยนต์สะดวกสบายมากกว่าเดิม โดยเฉพาะขั้นตอน ตรวจสภาพรถออนไลน์ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อน จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจอะไรบ้าง ? ต้องทำยังไง ? ขั้นตอนเป็นอย่างไร ? ตรวจสภาพรถจุดไหนบ้าง ? เรารวบรวมมาให้เรียบร้อยแล้ว ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย !
การตรวจสภาพรถก่อนทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อใช้เป็น “หลักฐาน” ว่ารถของคุณไม่มีรอยหรือไม่ได้มีเหตุเกิดก่อนทำประกัน นอกจากนี้ “รูปถ่าย” จากการตรวจสภาพรถยนต์ ยังช่วยยืนยันสภาพของรถได้สมบูรณ์แบบมากที่สุด ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วรถได้รับความเสียหาย จะได้รับการดูแลจากบริษัทประกันภัยอย่างครอบคลุม
การตรวจสภาพรถออนไลน์ของแต่ละบริษัทประกัน อาจมี “เงื่อนไขหรือข้อกำหนด” ที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางแห่งใช้วิธีการวิดีโอคอล บางแห่งใช้วิธีการถ่ายรูป แต่ที่แน่ ๆ คือเจ้าของรถ ผู้เอาประกัน หรือผู้ครอบครองรถ จะต้องถ่ายรูปให้ครบถ้วน ตรงตามเงื่อนไขดังนี้
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนยังคงสงสัย คือ “รถมีรอยสามารถทำประกันได้ไหม” จริง ๆ มีทั้งทำได้และไม่ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายอย่าง และสิ่งที่คุณควรทำความเข้าใจให้ดีเลยคือ “รอยแผลที่เป็นมาก่อนทำประกัน บริษัทจะไม่ให้ความคุ้มครอง” แต่ต้องดูเงื่อนไขว่ามากแค่ไหน เพื่อพิจารณาต่อไปว่าสามารถทำประกันได้หรือไม่ โดยขึ้นอยู่กับ “ปัจจัย” ดังต่อไปนี้
ทางบริษัทฯ จะตรวจสอบว่ารอยแผลเดิมมีมากแค่ไหน เช่น มากกว่า 4-5 แผล หรือ 10-20 แผล บางบริษัทอาจไม่รับตั้งแต่รอยแผลมากกว่า 4 แผล ต้องจัดการเคลม/ซ่อมให้เรียบร้อยก่อน หรือบางบริษัทอาจมี “เงื่อนไขเพิ่ม” ให้คุ้มครองก่อนได้ แต่ต้องไปเคลมภายในระยะเวลา 1 เดือน หรือบางบริษัทขอติด DD หรือ Excess 2,000 ทุกครั้งที่มีการเคลม แนะนำให้สอบถามทางบริษัทประกันให้ดี
เช่น ทางบริษัทฯ ประเมินความเสียหายแล้ว รวม 5,000 หรือ 13,000 บาท บางบริษัทรับได้ไม่เกิน 8,000 บาท ถ้ามากกว่านี้แล้วจะเอาแพ็กเก็จประกันรถยนต์ด้วยเบี้ยที่ถูก ต้องขอติด DD หรือ Excess 2,000 บาท จนกว่าจะไปเคลมมา
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าการจะทำประกันได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับ “เงื่อนไข” ของแต่ละบริษัท แนะนำให้สอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หากที่แรกไม่ได้ลองถามที่ที่สองดู พร้อมทั้งเจรจาและตกลงกันถึงเหตุและผล เพื่อให้รถยนต์ของคุณได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ และไม่เสียผลประโยชน์มากมายนัก
หลายคนอาจมองว่าการซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม จริง ๆ เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าหากคุณขับรถด้วยควมระมัดระวังเสมอ ไม่ขับสมบุกสมบัน ค่าเบี้ยที่ต้องลงทุนไปกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มค่าหรือไม่ สามารถบอกได้จาก “ปัจจัย” ดังต่อไปนี้
แนะนำว่าให้คุณลองชั่งน้ำหนัก เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์เกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน ว่าจริง ๆ แล้วประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่บอกว่าครอบคลุมรอบด้านนั้น ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้หรือไม่ หรือจริง ๆ เป็นค่าใช้จ่ายที่เกินจำเป็น เกินตัว หากเป็นแบบนั้นให้ลองมองประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ดูก่อน เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครอง และค่าเบี้ยประกันที่ตอบโจทย์มากที่สุด
“ประกันภัยรถยนต์” ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนมีรถ เพราะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้คุณตลอดการเดินทาง เมื่อเกิดปัญหาระหว่างทางจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือถ้าหากเกิดอุบัติเหตุจะมี “เพื่อน” ที่คอยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด (ไม่เกินวงเงินที่ระบุในประกัน) จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรทำความเข้าใจให้ดี โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอน “ถ่ายรูปเพื่อตรวจสภาพรถ ก่อนเริ่มกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์” เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่านั่นเอง
เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่
อยากรู้ไหม มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จ่ายภาษี พรบ. ต่อปีเท่าไรกันนะ ?