สกายวอล์ค ในไทย ที่ไหนบ้างที่อยากให้คุณไป เช็คอิน

แชร์ต่อ
เช็คอิน 7 สกายวอล์ค : ถ่ายรูปสวย วิวหลักล้าน

สถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงสถานที่ตามธรรมชาติ หรือแหล่งช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว “แนวเอ็กซ์ตรีม” อย่าง สกายวอล์ค ในไทย ที่ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ทุกวัย และที่สำคัญมี “วิวสวยๆ” MrKumka อยากชวนคุณไปพักผ่อนกันหน่อย รวบรวม 7 สกายวอร์คในประเทศไทยมาให้ลองดูว่าที่ไหนบ้างที่น่าไปเช็คอินกันบ้าง !

บอกต่อสถานที่ท่องเที่ยว 7 สกายวอล์ค ในไทย ชมวิวหลักล้าน !

สกายวอล์ค ในไทย

รวม 7 จุดท่องเที่ยว “สกายวอล์ค” ในประเทศไทย วิวหลักล้านที่น่าไปเยือนดูสักครั้ง แต่จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย !

  • 1. สกายวอล์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว : เลย

    สกายวอล์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว

    สกายวอล์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว หรือที่นิยมเรียกกันว่า “สกายวอล์คเชียงคาน” เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดเลย ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเหือง บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย มีลักษณะเป็น “ทางเดินกระจกริมแม่น้ำโขง” ความยาวรวม 100 เมตร กว้าง 2 เมตร และมีความสูงจากน้ำโขง 30 เมตร (เทียบเท่ากับตึก 30 ชั้น) ยื่นออกไปบริเวณหน้าผา 21 เมตร

  • 2. มหานคร สกายวอล์ค : กรุงเทพ

    มหานคร สกายวอล์ค

    ใครอยู่กรุงเทพแต่อยากเดินสกายวอร์ค ไม่ต้องไปที่ไหนไกล แนะนำที่นี่ มหานคร สกายวอล์ค กรุงเทพ ตั้งอยู่บนชั้น 78 ของตึกมหานคร สูงเหนือระดับพื้นดิน 314 เมตร มีลักษณะเป็นกระจกใสกว้าง สามารถมองทะลุลงไปด้านล่างของตัวอาคารได้ แถมยังสามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพฯ ได้ 360 องศา สำหรับการเข้าชมสามารถเข้าได้ทีละ 3 ส่วน คือ ชั้น 74 จุดชมวิวในอาคาร, จุดชมวิวภายนอกอาคารชั้น 74 และจุดชมวิวชั้น 78 เข้าชมได้ทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.

  • 3. Canopy Walkway สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ : เชียงใหม่

    Canopy Walkway สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

    สถานที่ท่อวเที่ยวที่น่าเช็คอินต่อไปคือสกายวอร์คกลางป่า Canopy Walkway อยู่ในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะคล้ายสะพานข้ามเหนือหุบเขา สูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร ความยาวระยะทางราว 400 เมตร

    ที่นี่พร้อมจะมอบความรู้สึกเหมือนธรรมชาติโอบกอด ผ่านการเดินชมวิวทิวทัศน์ที่มองไปมีแต่สีเขียวจากต้นไม้ ซ่อนความหวาดเสียวเบา ๆ ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่า เพราะได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

    ในส่วนของอัตราการเข้าชมและค่าบริการต่าง ๆ มีดังนี้

    • ผู้ใหญ่และนักศึกษา ราคา 40 บาท
    • นักเรียนและเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ราคา 20 บาท
    • ฟรี ! สำหรับผู้สูงอายุเกิน 60 ปี,พระภิกษุ-สามเณร, ผู้พิการ, เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
    • นักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าชม เสียค่าบริการ 100 บาท/คัน
    • ค่าบริการรถชมภายในสวย ผู้ใหญ่ 30 บาท, เด็ก 10 บาท
  • 4. หอชมฟ้า Bota Sky Tower : นครศรีธรรมราช

    หอชมฟ้า Bota Sky Tower

    เดินบนสะพานเสียวนิด ๆ ไปกับ Bota Sky Tower อุทยานสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

    ที่นี่คือจุดชมวิวกลางบรรยากาศธรรมชาติและกำลังเป็นที่นิยมของคนท้องถิ่นนักท่องเที่ยวขาจรที่มาเยือนจังหวัดนี้ต้องมาให้ได้ สีเขียว ๆ ที่มองไปสุดสายตากลายมาเป็นแลนด์มาร์กใหม่คู่อุทยานสวนพฤกษศาสตร์ ให้น่าเที่ยวขึ้นไปอีก ที่นี่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมานี้เอง น่าจะมีหลายคนเลยที่ยังไม่ได้ไป อยากให้เช็คอินดูสักครั้ง

  • 5. สกายวอล์ควัดตะแบก : ชลบุรี

    สกายวอล์ควัดตะแบก

    สกายวอล์ควัดตะแบก ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีลักษณะเป็นทางเดินทอดยาวไปกลางอากาศ เหนือยอดไม้ สูงจากพื้นดิน 25 เมตร มีระยะทางทั้งหมด 226 เมตร โดยจุดเป็นที่ “ไฮไลต์” ก็คือสะพานกระจกใส ระยะทาง 50 เมตร ที่สามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าใครเสียเกินไปสามารถเขยิบไปยืนข้าง ๆ ทำได้ด้วย

    สกายวอล์ควัดตะแบก เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. โดยมีค่าเข้าชมคนละ 40 บาท เท่านั้น ไม่ไกลจาก กทม. เที่ยวง่ายแม้ไปกลับเช็กข้อมูลก่อนไปเช็คอินได้ที่ Facebook: วัดเขาตะแบก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

  • 6. สกายวอล์ควัดผาตากเสื้อ : หนองคาย

    สกายวอล์ควัดผาตากเสื้อ

    สกายวอล์ควัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของวัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีลักษณะเป็นทางเดินรูปตัวยูยื่นออกไปจากหน้าผา 6 เมตร ทางเดินกว้าง 1.50 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตร มองเห็นวิวของแม่น้ำโขงอย่างชัดเจน ยิ่งในช่วงฤดูหนาวยังสามารถมองเห็น “ทะเลหมอก” แบบอลังการได้อีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่เป็น “ชะง่อนผา” ยื่นออกไปใกล้ ๆ กันอีกด้วย ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเก็บภาพถ่ายมุมสูง ซึ่งจะได้ภาพแบบด้านหลังเป็นวิวแม่น้ำโขง รายล้อมไปด้วยอ้อมกอดของธรรมชาติที่สวยปัง และถ้าหากคุณยังรู้สึกไม่หนำใจ บริเวณรอบ ๆ ยังมีวัดศรีมงคลและวัดถ้ำเพียงดิน ที่มีเรื่องเล่ามาตั้งแต่โบราณว่าเป็น “รูพญานาค” ที่โผล่พ้นออกมาจากแม่น้ำโขง ซึ่งสามารถเข้าไปภายในถ้ำได้อีกด้วย

  • 7. สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง : ยะลา

    สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

    สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง สามารถมองเห็นวิวโดยรอบ 360 องศา ตั้งอยูบนยอดเขาไมโครเวฟ บริเวณใกล้เคียงกับเสาทวนสัญญาณ และจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ในพื้นที่บ้านธารมะลิ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีลักษณะเป็นโครงสร้างอาคาร เป็นเหล็กรูปพรรณสูง 45 เมตร มีทางเดินยื่นออกไปในอากาศ 33 เมตร

    มีจุดไฮไลต์อยู่ที่ “ระเบียงพื้นกระจกใส” แถมผนังของสกายวอล์คยังสร้างเป็นกระจกใสด้วยเช่นกัน สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30-09.30 น

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 7 สกายวอล์คที่เรานำมาบอกต่อคุณเมื่อข้างต้น ถูกใจมากเลยใช่ไหมล่ะ ? แต่ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าสกายวอล์คทั้ง 7 ที่เรามาบอกต่อเมื่อข้างต้น เป็นเพียงแค่ “ส่วนหนึ่ง” เท่านั้น ในปัจจุบันยังมีสกายวอล์คเปิดให้บริการค่อนข้างหลากหลาย สามารถเลือกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ชื่นชอบได้ตามต้องการ

การออกไปผจญภัยบนโลกกว้าง ก็คือเป็น “การออกกำลังกาย” อีกแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรง ไปพร้อม ๆ กับความรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน และท้าทาย หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มีไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ แนะนำให้เตรียมตัวให้พร้อม แต่งตัวให้เหมาะสม ที่สำคัญ ! อย่าลืมซื้อประกันรถติดรถเอาไว้ด้วย เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน ได้ที่ MrKumka.com เว็บไซต์เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ 24 ชั่วโมง

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่