เข้าใจว่าการแบ่งกลุ่มรถยนต์มีผลต่อค่าเบี้ยประกันอย่างไร
ในประเทศไทย ค่าเบี้ยประกันรถยนต์จะถูกคำนวณตามกลุ่มรถยนต์ที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ. หรือ OIC) ซึ่งการแบ่งประเภทรถยนต์นี้จะถูกจัดออกเป็น 5 กลุ่มหลัก การรู้ว่ารถของคุณอยู่ในกลุ่มไหนจะช่วยให้เลือกความคุ้มครองได้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
คปภ. มีการแบ่งประเภทรถยนต์ออกเป็น 5 กลุ่ม ตามปัจจัยสำคัญ ได้แก่ด้านแหล่งผลิต ขนาดเครื่องยนต์, แหล่งผลิต, วิธีการประกอบ, ประเภทรถ และราคากลางในตลาด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์และการพิจารณารับประกันของบริษัทประกันภัย
กลุ่มนี้เป็นรถยนต์ที่นำเข้า 100% แบบทั้งคัน (Completely Built Up - CBU) และประกอบนอกประเทศ ส่วนใหญ่นำเข้าจากยุโรปและสหรัฐฯ โดยทั่วไปรถกลุ่มนี้จะมีราคาสูง ค่าซ่อมแพง และอะไหล่รถยนต์หายาก ถึงจะมีต้นทุนในการเป็นเจ้าของที่แพง แต่ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการความหรูหรา สมรรถนะสูง และความน่าเชื่อถือในระยะยาว
กลุ่มนี้เป็นรถยุโรปหรืออเมริกาที่นำเข้ามาเป็นชิ้นส่วน (Completely Knocked Down - CKD) แล้วประกอบในประเทศไทย ทำให้ราคาถูกกว่านำเข้าแบบทั้งคัน (CBU) แต่ยังคงมาตรฐานการผลิตยุโรปและเทคโนโลยีขั้นสูง กลุ่มรถยนต์ประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาคุ้มค่าและประหยัดกว่ากลุ่ม 1
รถยนต์ในกลุ่ม 3 นี้ ประกอบไปด้วยรถเอเชียขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,800cc ขึ้นไป รวมถึงรถเก๋งซีดานขนาดกลางถึงใหญ่, รถ SUV, รถกระบะ 4 ประตู และรถ MPV รถยนต์เหล่านี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการพละกำลังเครื่องยนต์สูง เหมาะสำหรับเดินทางไกลหรือขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย ทำให้รถกลุ่มนี้เหมาะสำหรับทั้งรถครอบครัวและผู้ที่มีประสบการณ์การขับขี่
เป็นกลุ่มรถยนต์เอเชียที่มีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,600-1,800cc รถยนต์กลุ่ม 4 นี้มักเน้นความสมดุลระหว่างขนาด สมรรถนะ และความประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานขับขี่ในเมือง เดินทางระยะไกลต่างจังหวัด และเหมาะสำหรับครอบครอบที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
รถยนต์กลุ่ม 5 เป็นรถเอเชียที่มีขนาดเล็ก เครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,500cc แม้ว่าจะได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงได้ ประหยัดน้ำมัน และเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง แต่มีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากถูกใช้งานมากในเมือง จึงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุบ่อย โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีอุบัติเหตุเล็กน้อยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้ขับขี่มือใหม่หรือวัยรุ่น โดยอาจส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น
ในประเทศไทย รหัสรถ 110 คือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ใช้เพื่อการเดินทางส่วนตัวเท่านั้น ไม่มีการรับจ้างหรือให้เช่า โดยรหัสรถ 120 ใช้กับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่งประเภทเดียวกัน แต่ใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น รถแท็กซี่ รถเช่า หรือรถให้บริการอื่นๆ สรุปคือ รหัสรถ 110 มีไว้สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล ขณะที่รหัสรถ 120 มีไว้สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์หรือให้เช่า
นอกจากการจัดประเภทตาม คปภ. แล้ว ยังสามารถจัดกลุ่มตามการใช้งาน เทคโนโลยี หรือการออกแบบ เช่น กลุ่มรถหรู กลุ่มรถ SUV หรือกลุ่มรถไฟฟ้า (EV) โดยรถในหมวดหมู่เหล่านี้อาจครอบคลุมหลายกลุ่มมาตรฐานตาม คปภ. แต่จะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการเลือกความคุ้มครองประกันภัย
รถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีราคาสูงกว่า 1,500,000 บาทขึ้นไป เช่น BMW, Mercedes-Benz และ Porsche กลุ่มรถหรูเหล่านี้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ตาม คปภ. ในกลุ่มที่ 1 และ 2 เนื่องจากมีมูลค่าสูงและค่าซ่อมบำรุงแพง จำเป็นต้องมีการประกันภัยเฉพาะทางที่ครอบคลุมอะไหล่แท้และมาตรฐานการซ่อมระดับสูง
รถยนต์อเนกประสงค์หลายระดับราคา ตั้งแต่ Crossover ขนาดเล็กไปจนถึงรถ SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดใหญ่ เช่น Toyota Fortuner และ Mazda CX-5 กลุ่มรถยนต์ SUV อาจถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม คปภ. ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับราคา การตรวจสอบว่า SUV ของคุณอยู่ในกลุ่มใดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกความคุ้มครองและค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้ตรงตามจริง
กลุ่มรถ EV หรือกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วยรถพลังงานไฟฟ้า 100% เช่น Tesla Model 3 และ BYD Atto 3 ถึงแม้ว่าการจัดกลุ่มตาม คปภ. จะใช้ราคาเป็นเกณฑ์ แต่รถ EV จำเป็นต้องมีความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น การคุ้มครองแบตเตอรี่และค่าซ่อมเฉพาะทาง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กลุ่มรถยนต์ มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการที่บริษัทประกันภัยใช้ประเมินความเสี่ยง รวมถึงกำหนดค่าเบี้ยประกันรถยนต์และเงื่อนไขความคุ้มครอง ไม่ว่ารถของคุณจะอยู่ในการแบ่งประเภทรถยนต์มาตรฐานตาม คปภ. (1-5) หรือเป็นกลุ่มตามไลฟ์สไตล์ เช่น รถ SUV หรือรถ EV การจัดประเภทเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อทั้งค่าใช้จ่ายและรายละเอียดความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย
หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทย การรู้จักกลุ่มประกันภัยจะช่วยให้คุณเข้าใจค่าเบี้ยประกันรถยนต์และตัวเลือกความคุ้มครองก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยระบุกลุ่มรถยนต์ของคุณได้
ยี่ห้อ รุ่น ปีที่ผลิต และขนาดเครื่องยนต์จะเป็นตัวกำหนดว่ารถของคุณอยู่ในกลุ่มรถยนต์ใด คุณสามารถดูข้อมูลได้จากเล่มทะเบียนรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
คปภ. มีการเผยแพร่ตารางการแบ่งประเภทรถยนต์ที่แสดงว่ารถรุ่นใดอยู่ในกลุ่มไหน โดยสามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซต์ทางการของ คปภ.
บริษัทประกันในประเทศไทยจะใช้การแบ่งประเภทรถยนต์ตาม คปภ. เป็นเกณฑ์ในการคิดเบี้ย คุณสามารถสอบถามบริษัทประกันเพื่อยืนยันกลุ่มรถที่แน่นอน พร้อมรับคำอธิบายว่ากลุ่มนั้นมีผลต่อความคุ้มครองและค่าใช้จ่ายอย่างไร
เคล็ดลับ: หากคุณวางแผนจะเปลี่ยนรถ ควรตรวจสอบกลุ่มของรถใหม่ก่อนซื้อ เพราะการเลือกรถที่อยู่ในกลุ่มต่ำกว่า จะสามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้