ซื้อรถมือสอง มองข้ามไม่ได้ ต้องรู้ว่าเช็คสภาพรถยังไง

       อยากซื้อรถมือสอง แต่ไม่รู้ว่าต้องเช็ครถมือสองยังไง ไม่ให้โดนรถย้อมแมวขาย ! หลายคนที่ไม่รู้ความรู้เรื่องรถมากนัก อาจจะต้องพาคนที่มีความรู้ด้านรถ ช่วยดูสภาพรถต่าง ๆ ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อรถง่ายขึ้น

       MrKumka จึงได้รวบรวม “จุดสังเกต” ที่ต้องดูเกี่ยวกับรถมือสองมาบอกคุณแบบละเอียด เบื้องต้นต้องดูที่ตรงไหนเป็นสำคัญ อะไรบ้างต้องเช็คให้ดี มีอะไรบ้างนั้น ? ไปติดตามและสังเกตพร้อม ๆ กันได้เลย !

เพราะรถถือเป็นยานพาหนะที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการเลือกซื้อรถยนต์สักคัน โดยเฉพาะ รถมือสอง ที่จำเป็นจะต้องตรวจเช็คให้ละเอียดรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นสภาพตัวรถภายใน ภายนอก หรือปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่กัน แต่จะมีวิธีการตรวจเช็คอย่างไรบ้าง ? ไปดูกันเลย~

1. ตัวรถภายนอก

ตัวรถภายนอกถือเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายที่สุด และยังเป็นจุดที่ดึงดูดให้คุณชื่นชอบรถคันนั้นเป็นอันดับแรก โดยตัวรถภายนอกจะต้องดูใหม่ สวย เงามัน สภาพดี ยิ่งดูยิ่งน่าสนใจ

2. ภาพรวมทรงรถ

ในขณะที่รถจอดนิ่งให้สังเกตดูว่ารถเอียงไปทางไหนหรือไม่ หากเอียงไปทางใดทางหนึ่ง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ารถคันนั้น ๆ อาจมีปัญหาช่วงล่างหรืออาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุหนัก ๆ มาก่อน

3. สีรถ

รถยนต์ที่ออกจากโรงงานตามปกติแล้วจะมีความสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่ถ้าหาก รถมือสอง ที่คุณสนใจมีความเข้มอ่อนไม่สม่ำเสมอตามจุดต่าง ๆ สันนิษฐานได้ว่ารถถูกทำสีมาใหม่ ไม่ว่าจะเกิดจากเจ้าของเดิมต้องการเปลี่ยนสี หรืออาจเคยถูกชนหนัก ๆ จนต้องมีการซ่อมแซมและทำสีรถใหม่

4. จุดยึดน็อต

จุดยึดน็อตเป็นอีกหนึ่งจุดที่สังเกตได้ไม่ยาก หากไม่มีร่องรอยการหมุนออก แสดงว่าไม่เคยมีการถูกถอดชิ้นส่วนออกมาเพื่อซ่อมแซม ทำสี เป็นของเดิมที่ออกจากโรงงาน ไม่ผ่านการชนหนัก ๆ มาก่อน

5. รอยอาร์คตัวถัง

รอยอาร์คคือรอยที่เกิดจากการเชื่อมชิ้นส่วนตัวถังรถยนต์ จะมีลักษณะเป็นรอยนูน บุ๋มตรงกลาง มักอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกันทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของตัวรถ โดยจะมีทั้งในห้องเครื่อง ภายในกระโปรงหลัง และด้านข้างตัวรถ หากจุดไหนไม่มีรอยบุ๋มตรงกลาง แสดงว่าเคยถูกชนมาก่อน

1. เลขตัวถังรถ

เลขตัวถังรถจะต้องมีความชัดเจน ไม่มีร่องรอยการแก้ไข และจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม บวกกับตรงกับเลขในเล่มทะเบียนรถ หากไม่ตรงให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นรถที่มีการดัดแปลงอย่างไม่ถูกกฎหมาย

2. เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ที่มีสภาพพร้อมใช้งาน หรือไม่มีปัญหาใด ๆ ขณะสตาร์ทจะต้องไม่มีเสียงวี้ด ๆ จี๊ด ๆ ของสายพาน และรถจะต้องไม่สั่นอย่างรุนแรงทั้งคัน หรือมีไฟรูปเครื่องโชว์บนหน้าปัด ซึ่งถ้าหากคุณต้องการความมั่นใจที่มากขึ้น อาจจะต้องให้ผู้ที่มีความรู้เข้ามาช่วยดูเป็นพิเศษ

3. สภาพห้องโดยสาร

ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซล พวงมาลัย เบาะ ขอบยางประตู จะต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยครอบน้ำ น้ำมัน หรือคราบสนิมในจุดไหนเลย รวมถึงสังเกตเลขไมล์รถด้วย ซึ่งอายุการใช้งานของรถโดยส่วนใหญ่ ระยะทางในการใช้งาน “ต่อปี” จะอยู่ที่ 20,000-30,000 กิโลเมตร

หากรถมือสอง ที่คุณสนใจมีเลขไมล์ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับปัจจัยต่าง ๆ อาทิ สภาพรถ อายุรถ แล้วเกิดความไม่สมดุลกัน เช่น รถอายุ 5 ปี เลขไมล์ 40,000 กิโลเมตร สันนิษฐานได้ว่าอาจมีการตั้งเลขไมล์ใหม่ เป็นต้น

หากคุณไม่ต้องการถูกย้อมแมวขาย นอกจากการตรวจเช็คสภาพรถเป็นอย่างดีแล้ว คุณจะต้องเลือกแหล่งซื้อรถที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงดูเลขทะเบียนรถ และทดลองขับจริง ว่ารถยนต์คันนั้น ๆ มีความผิดปกติอย่างไร และสังเกตดูว่าทัศนวิสัยในการขับขี่เป็นอย่างไร เหมาะสมกับคุณหรือไม่ เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากคุณตัดสินใจซื้อรถเรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมาคือความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน อย่างการทำประกันรถยนต์ให้กับรถคู่ใจ และประกันที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ซึ่งหลายคนเกิดความสงสัยว่าสามารถทำได้หรือไม่ ? คำตอบคือ รถมือสองสามารถทำประกัน ชั้น 1 ได้ และไม่สำคัญว่าเป็นรถมือที่เท่าไรด้วยแต่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางบริษัทประกันแต่ละแห่งเป็นสำคัญ ว่ารับทำประกันชั้น 1 กับรถที่มีอายุกี่ปีนับตั้งแต่จดทะเบียน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี (นับจากวันที่จดทะเบียน) ถึงจะทำประกันชั้น 1 ได้

แต่ถ้ารถยนต์มีอายุเกิน 10 ปี หรือเป็นรถหรูราคาแพง หากเจ้าของเดิมทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 ไว้อยู่แล้ว การต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม จะช่วยให้การเจรจาตกลงง่ายกว่า เพราะการเปลี่ยนบริษัทประกันจะต้องทำการประเมินสภาพรถ และเบี้ยประกันใหม่อีกครั้ง และในท้ายที่สุดอาจจะไม่เข้าเกณฑ์ที่สามารถทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 ได้

หากคุณกำลังสนใจรถมือสองสักคัน ควรตรวจเช็คสภาพรถและปัจจัยอื่น ๆ อย่างถี่ถ้วน บวกกับดู “ความจำเป็น” ในการซื้อและการใช้รถให้ดี เนื่องจาก รถ=ลด และมีค่าใช้จ่ายแฝงตามมามากมาย แต่ถ้าหากคุณมีความจำเป็น และตัดสินใจเป็นอย่างดีแล้ว สามารถเพิ่มความอุ่นใจให้กับรถยนต์ของคุณ ด้วยการซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม หากยังไม่รู้จะเลือกซื้อกับที่ไหน สามารถ เช็คเบี้ยประกันออนไลน์ กับ MrKumka ได้แล้ววันนี้ ! รับประกันความพึงพอใจด้วยบริษัทประกันชั้นนำ มีให้เลือกมากกว่า 15 บริษัท คลิกเลย !