วางแผน จ่ายเบี้ยประกันรายเดือน “มากกว่าหนึ่ง” รายการ
ต้องวางแผนยังไง ?

แชร์ต่อ
จ่ายเบี้ยประกันรายเดือนสูงเกินไป

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำประกันหลายรายการ เช่น ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต หรือมีประกันสุขภาพก็อาจมีหลายฉบับคุ้มครองหลาย ๆ โรค ควรทำความเข้าใจและจัดการ การจ่ายเบี้ยประกันรายเดือน อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะตามมาในอนาคต

อย่าให้การคุ้มครองเหล่านั้นสร้างความกังวลแก่คุณ ทั้งที่ควรจะมอบความ “อุ่นใจ” ในการใช้ชีวิต MrKumka จะมาช่วยคุณคิดถึงวิธีจัดการหากต้องจ่ายค่าเบื้ยประกันต่าง ๆ รอบตัว รายเดือนสูงเกินไป วางแผนให้ดีทำได้ไม่ยากเกินไป ไปดูพร้อม ๆ กันเลย

หากคุณต้อง จ่ายเบี้ยประกันรายเดือน สูงเกินไป ต้องทำยังไง ?

เคล็ดลับออมเงิน จ่ายค่าเบี้ยประกันรายเดือน

ในกรณีที่คุณซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลายรายการ เพื่อให้ชีวิตได้รับความคุ้มครองในทุก ๆ ด้าน แต่แล้ววันหนึ่งสภาพคล่องทางการเงินก็ไม่เป็นอย่างที่คิด จนทำให้การจ่ายค่าเบี้ยในแต่ละเดือนได้รับผลกระทบ เรามี “ทางออก” ดี ๆ ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้มากขึ้น ดังนี้

  • 1. ขอลดทุนประกัน

    หากเบี้ยประกันรถยนต์ หรือเบี้ยประกันด้านอื่นๆ ที่กำลังแบกรับอยู่ในตอนนี้ เมื่อเทียบกับปัญหาที่กำลังเผชิญ ก็ยังไม่สามารถจ่ายได้ไหว แนะนำให้ติดต่อบริษัทฯ เพื่อ “ขอลดทุนประกัน” ด้วยการเลือกตัดความคุ้มครองบางอย่างออกไป เช่น ค่าห้อง (เวลาพักรักษาตัว) ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวัน หรือค่าอื่น ๆ ที่คุณคิดว่า ‘อาจจะ’ ไม่จำเป็น

    เพราะเมื่อทุนประกันลดลง ดอกเบี้ยก็จะน้อยลงตามไปด้วย แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการ “ขาดสภาพคล่อง” แต่ยังสามารถรับความคุ้มครองจากกรมธรรม์เล่มเดิม แต่เงื่อนไขใหม่ได้ต่อไป

  • 2. จ่ายประกันในระยะเวลาผ่อนผัน

    บริษัทประกันหลายแห่ง ล้วนมี “ระยะเวลาผ่อนผัน” เพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าเบี้ยประกันออกไป 31 วัน (นับจากวันที่ครบกำหนดชำระค่าเบี้ย) แบบที่ความคุ้มครองยังอยู่ กรมธรรม์ไม่หาย หากคุณมองว่าตัวเองจะขาดสภาพคล่องในช่วงเวลาสั้น ๆ การติดต่อบริษัทฯ เพื่อจ่ายประกันในระยะเวลาผ่อนผัน ก็นับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์

  • 3. ขอกู้เงินจากกรมธรรม์

    ในกรณีที่ภาระค่าใช้จ่ายที่แบกรับอยู่ในตอนนี้ หนักหนาเกินกว่าจะเดินหน้าต่อได้ คุณสามารถกู้เงินจากกรมธรรม์ของตัวเอง ภายใต้มูลค่าเงินที่สะสมไว้ หรือภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ที่บริษัทฯ กำหนด ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้คุณมี “เงินหมุน” เพื่อเติมสภาพคล่องให้กับตัวเอง ช่วยให้สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้เต็มเวลา

    แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะกู้เงินจริง ๆ แนะนำให้ศึกษาอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย รวมถึงค่างวดที่ต้องชำระให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้คุณเจ็บหนักมากกว่าเดิมก็เป็นได้ หรือถ้าหากไม่มั่นใจว่าประกันของคุณ สามารถเพิ่มสภาพคล่องด้วยวิธีนี้ได้หรือไม่ แนะนำให้ติดต่อกับบริษัทประกันภัยโดยตรง เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ตรงจุดมากที่สุด

เคล็ดลับ “ออมเงิน” จ่ายค่าเบี้ยประกันรายเดือน

หากคุณเป็น “พนักงานเงินเดือน” ที่ต้องการความคุ้มครองให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นซื้อประกันชีวิต ซื้อประกันรถยนต์ ซื้อประกันสุขภาพ หรือซื้อประกันประเภทอื่น ๆ ควร “แบ่งเงิน” มาจ่ายค่าเบี้ยประกันแต่ละประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ เบื้องต้นคือให้ทำการแบ่งเงินจากรายได้ทั้งหมด ประมาณ 10-20% มาจ่ายค่าเบี้ยประกัน

และเพื่อไม่ให้การซื้อความคุ้มครองของคุณส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในอนาคต แนะนำให้คุณเช็คเบี้ยประกันก่อนแลคำนึงถึง “ประโยชน์ของการทำประกัน” เป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ยังรวมถึงประโยชน์ทางด้านภาษี วงเงินความคุ้มครอง สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล และเงินเก็บในอนาคต เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากการทำประกันอย่างถึงที่สุด

เทคนิคคำนวณรายได้ สำหรับซื้อความคุ้มครอง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ยังไม่รู้ว่า การซื้อประกันแบบไหนคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เราขอยกตัวอย่างจากคนที่มีรายได้ต่อเดือน ประมาณ 15,000 บาท แบ่งเงินมาซื้อประกัน 10% เท่ากับมีเงินจ่ายค่าเบี้ยประกัน (ต่อเดือน) 1,500 บาท ส่งผลให้คุณมีเงินจ่ายค่าเบี้ยประกันต่อปีเท่ากับ 1,500 x 12 = 18,000 บาท

แต่ในกรณีที่คุณเป็นผู้ที่ “มีรายได้ไม่แน่นอน” ควรเริ่มจาก “ความสามารถในการแบ่งเงินก้อน” ออกมาในแต่ละปี จากนั้นนำมาแบ่งเพื่อทำประกันเหมือนกับมนุษย์เงินเดือน คือ 10-20% ของรายได้ รวมถึงยังต้องคำนวณถึงประโยชน์ด้านต่าง ๆ ของการทำประกันด้วยเช่นกัน หากคุณมีการวางแผนการเงินที่ดี การจ่ายค่าเบี้ยประกันรายเดือนหรือรายปีของคุณ ก็จะไม่ได้รับผลกระทบในอนาคตแล้วล่ะ

หยุดจ่ายค่าเบี้ยเท่ากับยกเลิกกรมธรรม์ จริงไหม !?

ผู้เอาประกันหลายคนมักคิดว่าการหยุดจ่ายค่าเบี้ยประกัน เท่ากับการยกเลิกกรมธรรม์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่อย่างที่คิด ! เพราะนอกจากจะไม่ได้เท่ากับยกเลิกกรมธรรม์แล้ว หากคุณหยุดส่งค่าเบี้ยไปเฉย ๆ คุณอาจจะต้องเผชิญกับ “หนี้ก้อนโต” ในอนาคต เนื่องจากบริษัทฯ จะมองว่าคุณจ่ายค่าเบี้ยประกันล่าช้ากว่าที่กำหนด

หลังจากนั้นทางบริษัทฯ จะทำการกู้กรมธรรม์อัตโนมัติ (APL) เพื่อรักษากรมธรรม์ และให้คุณยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันอย่างต่อเนื่อง หากไม่สะดวกจ่ายค่าเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนด หรือต้องการยกเลิกกรมธรรม์ แนะนำให้ติดต่อบริษัทฯ เพื่อแจ้งความประสงค์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ที่อาจจะตามมาสร้างผลกระทบแก่คุณในอนาคต

สำหรับคนที่สนใจทำประกันภัยประเภทต่าง ๆ
เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยโรคมะเร็ง รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเองอย่าง “การขอสินเชื่อรถยนต์” แต่ไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหน หรือเข้ารับคำปรึกษาจากใคร เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ MrKumka คือหนึ่งในผู้ให้บริการที่พร้อมมอบคำปรึกษา และกรมธรรม์ดี ๆ ให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง โดย MrKumka ยังมีประกันรถยนต์ผ่อนได้ เพียงไว้ใจและติดต่อเข้ามา คุณก็จะมีเส้นทางชีวิตที่ราบรื่น อุ่นใจ แม้ว่าจะมีไลฟ์สไตล์ชีวิตเป็นแบบใดก็ตาม

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่