ประกันมะเร็ง ต้องเลือกอย่างไรให้ดีที่สุดสำหรับคุณ

ประกันมะเร็งแบบจ่ายเงินก้อนนั้นมีข้อดีที่เบี้ยถูก มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหลายพันให้เลือก ซึ่งเงื่อนไขก็คือเมื่อเจอมะเร็งก็จะจ่ายเงินก้อนตามทุนประกัน อาจจะมีของแถมอื่น ๆ เช่นค่าทำคีโม หรือจ่ายเพิ่มหากเป็นโรคมะเร็งอื่นตามเงื่อนไข ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ไม่อยากจ่ายเบี้ยสูงและคิดว่าตัวเองเสี่ยงน้อย แต่ถ้าใครสนใจจะซื้อประกันแบบนี้ก็ขอแนะนำให้ดูเงื่อนไขว่าจ่ายเงินก้อนตามระยะลุกลาม หรือ จ่ายทุกระยะ

• จ่ายเฉพาะระยะลุกลาม

  ในเงื่อนไขจะเขียนเอาไว้ว่าจะจ่ายก็ต่อเมื่อเจอมะเร็งในระยะลุกลามแล้วเท่านั้น หากไม่อ่านเงื่อนไขให้ดีอาจเกิดปัญหาได้ในอนาคต เพราะมะเร็งนั้นเราสามารถตรวจเจอได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งถ้าเราไม่ศึกษาให้ดีก็จะเคลมประกันไม่ได้ ครั้นจะรอให้มะเร็งลุกลามก็คงไม่มีใครอยากรอแบบนั้น

   

• จ่ายทุกระยะ

  มะเร็งนั้นเป็นโรคอันตรายซึ่งเกิดได้กับทุกคน ด้วยวิทยาการแพทย์สมัยใหม่เราสามารถตรวจเจอมะเร็งได้ทุกระยะ แม้แต่ระยะเริ่มต้น ดังนั้นคนที่ตรวจสุขภาพเป็นประจำก็สามารถตรวจเจอได้เร็วก่อนจะลุกลาม เพราะฉะนั้นสำหรับบางคนไม่ควรต้องรอจนมะเร็งลุกลามก็ควรรีบรักษา การทำประกันก็ควรเลือกประกันที่มีเงื่อนไขเจอจ่ายทุกระยะ จะได้รีบรักษากันทันท่วงที

   

มีบริษัทประกันมากมายที่ให้บริการแพ็คเกจในเรื่องของประกันมะเร็งแบบรักษาพยาบาล ซึ่งมีระดับความคุ้มครองแตกต่างกันไปตามทุนประกัน ดังนั้นการจะเลือกประกันมะเร็งจะต้องตรวจสอบให้ดีว่าข้อเสนอไหนเหมาะกับเรา ทั้งเรื่องของทุนประกัน เบี้ยประกัน ความคุ้มครอง และอื่น ๆ อีกมาก มาดูกันว่าประกันมะเร็งที่ดีจะต้องดูจากอะไร

• วงเงินความคุ้มครองเหมาะสม

  บางคนคิดว่าการเลือกความคุ้มครองของประกันมะเร็ง ก็ต้องเลือกขนาดความคุ้มครองที่เยอะไว้ก่อน ทุนประกันยิ่งเยอะยิ่งดี จะได้แน่ใจว่าถ้าเป็นมะเร็งขึ้นมาจะได้รับเงินที่มากเพียงพอกับการรักษา แต่ก็ควรนึกไว้ด้วยว่า ยิ่งทุนประกันสูง เบี้ยประกันก็ยิ่งสูงตามไปด้วย เลือกประกันที่มีเบี้ยประกันพอจะจ่ายไหว ไม่หนักจนเกินไป แล้วลองดูว่าจริงแล้วคุณมีสวัสดิการอะไรอยู่แล้วบ้าง เช่นสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม หรือประกันที่บริษัทที่คุณทำงานอยู่จ่ายให้ แต่หากคุณไม่มีปัญหาเรื่องเงินและต้องการให้ประกันมะเร็งครอบคลุมการรักษาทั้งหมดโดยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ดีที่สุด คุณก็ต้องเลือกประกันที่มีทุนประกันคุ้มครองขั้นต่ำ 3-5 ล้านบาท

   

• ค่าห้องพัก

  กระบวนการรักษาโรคมะเร็ง บางครั้งต้องผ่าตัด ฉายรังสี หรือทำคีโม ซึ่งกระบวนการเหล่านี้อาจจะต้องการการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล คุณต้องแน่ใจว่าประกันของคุณครอบคลุมเรื่องห้องพักรักษาพยาบาลด้วย โดยค่าห้องจะต้องสอดคล้องกับค่าห้องของโรงพยาบาลที่คุณเลือกในการรักษาโรคมะเร็ง โดยถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2500-3500 ต่อคืน และหากเป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่าห้องจะอยู่ประมาณ 8000 บาทขึ้นไปต่อคืน

   

• ไม่ปฏิเสธการต่ออายุ

  เคยมีคนถูกบริษัทประกันปฏิเสธการต่ออายุความคุ้มครอง ซึ่งส่วนมากจะเกิดตอนที่พบว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว ถ้าหากเราถูกปฏิเสธการต่ออายุหลังจากพบโรคมะเร็ง ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือเราจะไม่สามารถทำประกันโรคมะเร็งที่ไหนได้อีก ดังนั้นเลือกบริษัทประกันที่เชื่อถือได้และดูเงื่อนไขการต่ออายุความคุ้มครองที่จะต้องต่อโดยอัตโนมัติไม่มีข้อแม้

   

• ค่าเบี้ยหลังเกษียณไม่แพงแบบก้าวกระโดด

  รู้หรือไม่ว่าค่าเบี้ยประกันจะขึ้นราคาเมื่อผู้ทำประกันเข้าสู่วัยเกษียณ บางที่อาจจะไม่มาก แต่บางที่ขึ้นแบบก้าวกระโดด ดังนั้นก่อนเลือกกรมธรรม์ประกันโรคมะเร็ง ศึกษาข้อกำหนดให้ละเอียดว่าหลังเข้าสู่วัยเกษียณมีการปรับค่าเบี้ยหรือไม่ ถ้าปรับ ปรับขึ้นเท่าไหร่ เพราะถ้าปล่อยปละละเลยไป อาจจะต้องตกใจกับค่าเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เพราะฉะนั้นเราควรเลือกตั้งแต่ตอนนี้ว่าจะเลือกประกันที่ปรับค่าเบี้ยอย่างสมเหตุสมผล