คนมีรถหลายคนที่จ่ายค่าเบี้ยประกันอย่าสม่ำเสมอทุกปี แต่ไม่เคยแจ้งเคลมประกันแม้แต่ครั้งเดียว เคยสงสัยไหมว่าประกันรถยนต์ไม่เคยเคลมให้ผลดียังไง? มีโอกาสได้รับ “สิทธิพิเศษ” อย่างส่วนลดประวัติดีหรือไม่? มิสเตอร์ คุ้มค่า จะพาคุณไปเจาะลึกทุกประเด็นเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ สำหรับคนที่ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่มีประวัติการเคลม พร้อมพาหาคำตอบกรมธรรม์ปัจจุบันได้รับส่วนลดประวัติดีเท่าไหร่ ถ้าพร้อมแล้วไปลงลึกทีละประเด็นกันเลย
ประกันรถยนต์ไม่เคยเคลม คืออะไร?
คือ ตลอดระยะเวลากรมธรรม์ ผู้เอาประกันไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันเลย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ หรืออุบัติเหตุใหญ่ ซึ่งตราบใดที่คุณไม่มีประวัติแจ้งเคลมใด ๆ เกิดขึ้น ระบบของบริษัทจะบันทึกไว้เป็น “ประวัติดี” ทันที ซึ่งปกติคือ 1 ปี นับจากวันที่เริ่มต้นคุ้มครองจนถึงวันหมดอายุกรมธรรม์ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- ไม่เคยแจ้งซ่อมกับบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นเคลมแห้ง หรือเคลมสด
- ไม่เคยแจ้งให้บริษัทประกันจ่ายค่าเสียหายให้กับตัวเอง (ผู้เอาประกัน) หรือบุคคลอื่น
- ไม่ได้มีส่วนร่วมในอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย และต้องมีการใช้ประกัน
ประกันรถยนต์ไม่เคยเคลม มีผลต่อเบี้ยประกันไหม?
มีผลโดยตรง เพราะการที่คุณไม่เคยมีประวัติการแจ้งเคลมประกันในรอบปีที่ผ่านมา จะส่งผลดีต่อ “เบี้ยประกันในปีถัดไป” เพราะบริษัทประกันมองว่าคุณเป็นผู้ขับขี่ที่ดี มีความเสี่ยงต่ำ จึงยินดีมอบ “ส่วนลดประวัติดี (No Claim Bonus: NCB)” ซึ่งช่วยลดค่าเบี้ยประกันได้อย่างมาก ปกติแล้วส่วนลดดังกล่าวจะลดหลั่นตามจำนวนปีที่ไม่มีการเคลม ดังนี้
- ไม่มีเคลม 1 ปี: ได้รับส่วนลด 20%
- ไม่มีเคลมต่อเนื่อง 2 ปี: ได้รับส่วนลด 30%
- ไม่มีเคลมต่อเนื่อง 3 ปี: ได้รับส่วนลด 40%
- ไม่มีเคลมต่อเนื่อง 4 ปีขึ้นไป: ได้รับส่วนลดสูงสุด 50%
พาหาคำตอบ ส่วนลดประวัติดีคิดอย่างไร?
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากจะรู้ว่าในปีนั้น ๆ คุณมีโอกาสได้รับส่วนลดเป็นเงินกี่บาท หรือกำลังหาคำตอบว่าส่วนลดประวัติดีคิดอย่างไร มิสเตอร์ คุ้มค่า ยินดียกตัวอย่างการคำนวณมาให้คุณทำความเข้าใจ ดังนี้
“สมมติว่าคุณซื้อประกันรถยนต์ ชั้น 1 ค่าเบี้ยอยู่ที่ 20,000 บาท”
- หากประกันรถยนต์ไม่เคยเคลม 1 ปี จะได้รับส่วนลด 20% หมายความคุณจะจ่ายเบี้ยปีต่อไปเพียง 16,000 บาท
- หากไม่มีเคลมในปีที่ 2 จะได้รับส่วนลด 30% ค่าเบี้ยที่ต้องจ่าย คือ 14,000 บาท
- และถ้าหากไม่มีเคลม 4 ปีขึ้นไป จะได้รับส่วนลดสูงสุด 50% จะจ่ายเบี้ยเพียง 10,000 บาท
พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งคุณขับขี่ปลอดภัยมากแค่ไหน และไม่มีการเคลมหลายปีติดต่อกันเท่าไหร่ ก็มีสิทธิได้รับส่วนลดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น (สูงสุดที่ 50%)
ไม่เคยแจ้งเคลมเลย ควรต่อที่เดิมหรือเปลี่ยนเจ้าใหม่?
ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ในกรณีที่พึงพอใจในบริการ ราคา และสิทธิพิเศษที่ได้รับ การต่อประกันที่เดิมจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าหากเจ้าใหม่มีค่าเบี้ยที่ถูกกว่า คุ้มกว่า โดยยังคงส่วนลดประวัติดีเอาไว้ การเลือกทำกับเจ้าใหม่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ ซึ่งจะต้องเปรียบเทียบจาก ‘ปัจจัย’ ใดบ้าง ตามไปเจาะลึกกันเลย
ได้รับส่วนลดประวัติดีแล้วหรือยัง?
ถ้าในปีที่ผ่านมาประกันรถยนต์ไม่เคยเคลมเลยสักครั้ง คุณควรจะได้รับส่วนลดประวัติดีอัตโนมัติ หากบริษัทเดิมไม่ให้หรือให้ต่ำเกินไป แนะนำว่าควรเช็กเจ้าอื่นว่ามีข้อเสนอที่ดีกว่าหรือไม่ ทางที่ดีควรถามให้ชัดเจนว่าได้รับส่วนลดประวัติดีไหม ได้เท่าไหร่
เบี้ยและความคุ้มครองที่ได้รับเป็นยังไง?
บางครั้งบริษัทประกันใหม่อาจเสนอค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า แต่แลกมาด้วยความคุ้มครองที่น้อยลง หรือบางเจ้าอาจมีโปรโมชั่น เช่น ซ่อมห้าง (ศูนย์ซ่อมรถ), ฟรีค่าเสียหายส่วนแรก, บริษัทการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นต้น ในกรณีที่บริษัทใหม่เสนอเบี้ยที่ถูกกว่า 20-30% พร้อมเงื่อนไขที่ใกล้เคียง ควรพิจารณาเปลี่ยน ด้วยการยกเลิกประกันรถยนต์กับโบรกเกอร์ พร้อมขอใบรับรองประวัติดีจากบริษัทเดิม เพื่อคงสิทธิส่วนลดประวัติดีเอาไว้
ประสบการณ์การใช้บริการ
ถ้าเคยใช้บริการแล้วดี รู้สึกประทับใจ เช่น ติดต่อง่าย เคลมเร็ว แม้จะไม่เคยเคลมเลยก็ยังถือเป็น “จุดแข็ง” บางคนจึงเลือกต่อประกันเจ้าเดิมเพราะต้องการความอุ่นใจ แม้จะแพงกว่าเล็กน้อยก็ตาม แต่ถ้าหากบริการที่ได้รับในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยน่าประทับใจ การมองหาตัวเลือกใหม่ ๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
สรุปง่าย ๆ คือ ถ้ากำลังหาคำตอบว่าต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี แนะนำว่าควรเช็กสิทธิส่วนลดประวัติดีที่บริษัทเดิมให้ดีก่อน จากนั้นค่อยเปรียบเทียบเบี้ยและความคุ้มครองกับบริษัทอื่น หากเจ้าใหม่ยินดีมอบข้อเสนอที่ดีกว่า และยังคงรักษาส่วนลดเดิมไว้ได้ การเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าใหม่ก็ไม่เสียหาย
จะรู้ได้ยังไง ว่ากรมธรรม์ปัจจุบันได้รับส่วนลดประวัติดีเท่าไหร่?
ไม่มีคำตอบตายตัว สำหรับคำถามที่ว่ากรมธรรม์ปัจจุบันได้รับส่วนลดประวัติดีเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประวัติการเคลมย้อนหลัง, ประเภทของประกันภัยที่ซื้อ, บริษัทประกันที่ใช้ (บางเจ้ามีเกณฑ์ให้มากกว่าปกติ) ทางที่ดีที่สุดแนะนำให้สอบถามบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์โดยตรง เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องคำนวณเบี้ยที่แท้จริงพร้อมส่วนลดให้ เนื่องจากส่วนลดประกันภัยรถยนต์ประวัติดีที่ได้รับ อาจเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นและนโยบายของแต่ละบริษัทนั่นเอง
ถ้าคุณไม่เคยมีประวัติการเรียกร้องค่าสินไหมจากบริษัทประกัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กหรือใหญ่ตลอดอายุกรมธรรม์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าประกันรถยนต์ไม่เคยเคลม จะทำให้คุณได้รับส่วนลดประวัติดีเมื่อถึงรอบต่ออายุประกันในปีถัดไปอัตโนมัติ ในกรณีที่ลังเลว่าจะอยู่กับเจ้าเดิมหรือเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าใหม่ นอกจากจะเช็กสิทธิส่วนลดประกันภัยรถยนต์ประวัติดีแล้ว แนะนำให้เปรียบเทียบเบี้ยประกันและความคุ้มครองให้ดีซะก่อน
คำจำกัดความ
| ลดหลั่น | ต่ำลงไปเป็นชั้น ๆ หรือตามลำดับชั้น |
| อายุกรมธรรม์ | ระยะเวลาที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้ หรือระยะเวลาที่ผู้เอาประกันภัยได้รับการคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย |
| ความเสี่ยงต่ำ | สถานการณ์หรือการกระทำที่มีโอกาสเกิดผลเสียหรือความเสียหายต่ำ |
