เหตุผลที่ทำให้เบี้ยประกันรถไฟฟ้าราคาแพงกว่ารถใช้น้ำมัน

แชร์บทความนี้
เหตุผลที่ทำให้เบี้ยประกันรถไฟฟ้าราคาราคาแพงกว่ารถใช้น้ำมัน | มิสเตอร์ คุ้มค่า

ในยุคที่เทคโนโลยีรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รถไฟฟ้า EV กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะที่ค่าน้ำมันหมดไป คำถามที่ตามมา คือ ประกันรถไฟฟ้าแพงไหม? ซึ่งหลายคนอาจสังเกตเห็นว่าเบี้ยประกันรถไฟฟ้าแพงกว่ารถใช้น้ำมันอย่างชัดเจน มิสเตอร์ คุ้มค่า จะพาไปเจาะลึกว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น พร้อมบอกต่อวิธีเลือกประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า ราคาที่คุ้มค่าที่สุด

ค่าประกันรถไฟฟ้า EV ขึ้นอยู่กับอะไร?

ใครที่กำลังจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใหม่หรือใช้อยู่แล้ว คงเกิดความสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าการกำหนด “ค่าประกันรถไฟฟ้า คิดจากอะไร?” โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ทำไมบางคันถูก แต่บางคันก็แพงเอาเรื่อง บอกตรงนี้เลยว่ามีหลายปัจจัยที่บริษัทประกันนำมาใช้คำนวณ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

  • 1. ปัจจัยเกี่ยวกับตัวรถ EV

    • มูลค่ารถ (ทุนประกันภัย): รถยิ่งแพง เบี้ยประกันยิ่งสูง
    • ราคาของแบตรถไฟฟ้า: มีราคาสูง และเป็นส่วนที่เสี่ยงต่อการเคลมมาก
    • ค่าอะไหล่รถและค่าซ่อม: ถ้ารุ่นนั้นอะไหล่หายากหรือเป็นอะไหล่นำเข้า จะมีต้นทุนสูง บริษัทประกันภัยจึงต้องคำนวณเผื่อไว้ในเบี้ยประกันรถไฟฟ้
    • ความพร้อมของศูนย์บริการ/อู่ซ่อม: รถบางรุ่นมีศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศ บางรุ่นมีแค่ในเมือง ถ้าศูนย์ซ่อมน้อยเสี่ยงซ่อมแพง เบี้ยก็จะสูงตาม
  • 2. ปัจจัยเกี่ยวกับผู้ขับขี่และเงื่อนไขกรมธรรม์

    • อายุและประวัติการขับขี่: อายุ 30-60 ปี จะได้เบี้ยถูกกว่าอายุ 25 ปี ถ้าไม่มีประวัติเคลมประกัน จะได้ส่วนลดประวัติดีด้วย
    • ประเภทการใช้งาน: ใช้ขับขี่ส่วนบุคคล จะได้เบี้ยถูกกว่าการใช้เชิงพาณิชย์
    • ระบุชื่อผู้ขับขี่:ถ้าระบุชื่อผู้ขับขี่จะได้ส่วนลด ถ้าไม่ระบุค่าเบี้ยจะสูงขึ้น
    • รูปแบบการซ่อม: ซ่อมอู่เบี้ยจะถูกกว่าซ่อมห้างประมาณ 10-30%
    • ทุนประกันภัย: เลือกทุนประกันมากเบี้ยสูง เลือกทุนประกันต่ำ (แต่ไม่ต่ำเกินไป) เบี้ยลดลง

แต่ละบริษัทมีเกณฑ์ประเมินความเสี่ยง และคิดคำนวณค่าเบี้ยประกันแตกต่างกันออกไป แนะนำให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ในด้านของความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน และบริการอื่น ๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อความคุ้มครองที่ตอบโจทย์มากที่สุด

เหตุผลที่ทำให้เบี้ยประกันรถไฟฟ้าราคาแพง มีอะไรบ้าง?  | มิสเตอร์ คุ้มค่า

เหตุผลที่ทำให้เบี้ยประกันรถไฟฟ้าราคาแพง มีอะไรบ้าง?

ผู้ใช้รถหลายคนพบว่าเบี้ยประกันรถไฟฟ้า โดยเฉพาะประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า ราคาสูงกว่ารถน้ำมันในประเภทเดียวกัน แม้ว่าจะใช้ระยะทางเท่า ๆ กัน และขับขี่อย่างปลอดภัยก็ตาม ทำให้เกิดคำถามว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนั้น” มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว

  • 1. อะไหล่รถไฟฟ้า EV มีราคาสูง และหายาก

    หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าประกันรถไฟฟ้าสูง คือ เรื่องของ “อะไหล่รถ” โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า เพราะส่วนใหญ่มักนำเข้าและต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า, อินเวอร์เตอร์ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับความเสียหาย การซ่อมแซมจึงมีต้นทุนที่สูงกว่า นอกจากนี้ช่างทั่วไปอาจไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง ทำให้ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

  • 2. ระบบไฟฟ้ามีความซับซ้อน ตรวจซ่อมยาก

    ในส่วนของ “ระบบไฟฟ้า” ในรถ EV ไม่ใช่แค่การส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ แต่ยังรวมถึงการควบคุมระบบทั้งหมดตั้งแต่ระบบเบรก, การชาร์จแบต, ระบบทำความเย็นของแบตรถไฟฟ้า และระบบควบคุมแรงดัน เมื่อเกิดปัญหาบริษัทประกันต้องรับความเสี่ยงสูงกว่ารถทั่วไป เพราะความเสียหายไม่สามารถประเมินได้ง่าย อาจต้องเปลี่ยนทั้งระบบแทนที่จะซ่อมแค่จุดเดียว

  • 3. แบตเตอรี่ หัวใจหลักของรถ EV มีต้นทุนแพงที่สุด

    หัวใจหลักของรถยนต์ EV คือ แบตเตอรี่รถไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุด โดยคิดเป็น 30-50% ของราคารถทั้งหมด หากเกิดอุบัติเหตุที่กระทบต่อแบตรถไฟฟ้า บริษัทประกันมักต้องเปลี่ยนใหม่ยกชุด ซึ่งมีมูลค่าสูงถึงหลักแสนบาท

    นอกจากนี้แบตรถไฟฟ้ายังมีข้อจำกัดด้านอายุการใช้งาน ทำให้ประกันต้องคำนึงถึงการเสื่อมสภาพร่วมด้วย ในส่วนของแบตฯ ที่เสียหายจากไฟไหม้หรือความร้อนสูง อาจเกิดปัญหาไฟลุกซ้ำหลังซ่อม ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ทำให้บริษัทประกันต้องตีความเสี่ยงในเชิงลึก และบวกเพิ่มราคาประกันรถไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนจากเหตุฉุกเฉินนั่นเอง

  • 4. ศูนย์ซ่อมและศูนย์ที่ให้บริการยังมีจำกัด

    ปัจจุบันอู่ทั่วไปยังไม่พร้อมรับรถ EV เนื่องจากไม่มีเครื่องมือหรือบุคลากร ที่สามารถจัดการกับระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้รถไฟฟ้านำเข้าหรือแบรนด์รถที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทย ก็มีศูนย์บริการอยู่แค่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, หาดใหญ่ หากรถเสียในต่างจังหวัด อาจต้องลากรถเข้าศูนย์ไกล ทำให้ค่าซ่อมและระยะเวลาการซ่อมสูงขึ้น

มีวิธีไหนลดราคาประกันรถไฟฟ้าได้บ้าง?

  • ระบุชื่อผู้ขับขี่

    การทำประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ เช่น ใส่ชื่อคนขับหลักหรือคนในครอบครัว จะช่วยลดค่าเบี้ยประกันรถไฟฟ้าได้ประมาณ 5-20% เพราะบริษัทประกันประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำกว่าไม่ระบุ (ใครขับก็ได้)

  • เลือกซ่อมอู่แทนซ่อมห้าง

    กรณีที่รถหมดประกันศูนย์แล้ว และคุณไม่ซีเรียสว่ารถคันโปรดจะต้องซ่อมที่ศูนย์เท่านั้น การเปลี่ยนมาใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ใกล้ฉันจะช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่าเลือกซ่อมศูนย์ประมาณ 10-30% ซึ่งไม่ต้องกังวลเลย เพราะอู่ในเครือประกันมีมาตรฐาน รองรับ EV ได้เช่นกัน แต่แนะนำให้เช็กให้ดีก่อนซื้อ

  • ติดกล้องหน้ารถ

    บริษัทประกันหลายแห่งให้ส่วนลดเมื่อติดกล้องหน้ารถทันที 5-10% เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยลดข้อพิพาทเวลาเคลม และใช้เป็นหลักฐานเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนนได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ต่างฝ่ายต่างบอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก บอกเลยว่าช่วยได้เยอะมาก

  • ไม่เคลมเล็กเคลมน้อย

    หากคุณไม่เคยมีประวัติการเคลมใด ๆ เลยในปีที่ผ่านมา จะทำให้ได้รับส่วนลดประวัติดี หรือ No Claim Bonus ซึ่งจะช่วยลดเบี้ยประกันได้สูงสุดถึง 50% (ในบางกรณี) แนะนำว่าให้เคลมเฉพาะที่จำเป็น เพราะจะช่วยลดเบี้ยปีต่อไปได้เยอะมาก

  • เลือกทุนประกันให้เหมาะสม

    ประกันรถยนต์ที่ดี ตอบโจทย์ ไม่จำเป็นต้องเลือกทุนสูงสุดเสมอไป เช่น รถราคา 1,000,000 บาท เลือกทุนประกัน 85% หรือ 850,000 บาท จะทำให้เบี้ยประกันถูกลงกว่าทุน 100% แบบไม่มีผลต่อความคุ้มครองมากมายนัก

เลือกซื้อประกันรถไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม?

ปีหลัง ๆ มานี้ ถือเป็นช่วงที่ตลาดรถไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโต และประกันรถไฟฟ้าก็เริ่มมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้คุณซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าได้คุ้มที่สุด ทั้งในแง่ของราคาและความคุ้มครอง มิสเตอร์ คุ้มค่า รวมแนวทางเลือกซื้ออย่างชาญฉลาดมาให้แล้ว

  • เลือกประกันที่ออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ

    มีหลายบริษัทเริ่มออกแบบ “แผนประกันเฉพาะสำหรับ EV” ซึ่งจะคุ้มค่ากว่าแผนทั่วไป เพราะคุ้มครองแบตเตอรี่รถไฟฟ้า, มีบริการเฉพาะ เช่น รถลากระหว่างเดินทาง, ชาร์จไฟฉุกเฉิน, ช่วยเหลือผ่านแอป และปรับทุนประกันและความเสี่ยงตามรูปแบบรถไฟฟ้า ไม่ใช้สูตรเดียวกับรถน้ำมัน

  • เปรียบเทียบเบี้ยประกันหลายเจ้า

    เบี้ยประกันรถรุ่นเดียวกันอาจราคาต่างกันหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทประกันมองความเสี่ยงรุ่นนั้นยังไง ความถี่การเคลมในระบบของบริษัท และความพร้อมในการซ่อม EV ของเครือข่ายอู่/ศูนย์ของแต่ละบริษัท แนะนำให้เปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันหลายเจ้า อย่าซื้อเจ้าแรกที่เจอ

    วางแผนซื้อประกันแบบระยะยาว อาจได้โปรพิเศษ

    การวางแผนซื้อประกันรถไฟฟ้าแบบระยะยาว 2-3 ปี เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยประหยัดเงิน และได้สิทธิประโยชน์พิเศษ หลายบริษัทเริ่มแข่งขันกันออกแพ็กเกจ EV อย่างจริงจัง ถ้าอย่างนั้นมาดู “ข้อดี และสิ่งที่ควรระวัง” กันหน่อย

    ข้อดีของการซื้อประกันระยะยาว

    • ล็อกเบี้ยประกันรถไฟฟ้าราคาถูก ไม่ขึ้นตามปี:
    • ได้โปรพิเศษ หรือของแถมเพิ่ม: เช่น ฟรีบริการชาร์จไฟฉุกเฉิน ฟรีตรวจแบตรถไฟฟ้าปีละครั้ง แจก Wallbox หรือคูปองชาร์จ EV Station เป็นต้น
    • ไม่ต้องต่อประกันทุกปี: สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหาประกันใหม่ทุกปี แถมไม่เสี่ยงลืมต่อและขาดความคุ้มครอง

    สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อประกันระยะยาว

    • เงื่อนไขการยกเลิก: หากขายรถก่อนครบ 2-3 ปี ได้เงินคืนไหม หักค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ บางบริษัทมีเงื่อนไข “คืนเบี้ยไม่ได้” ในกรณีเคลมไปแล้ว
    • ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลง: เช่น ปีถัดไปจะเปลี่ยนชื่อผู้ขับได้ไหม เปลี่ยนรูปแบบการซ่อมได้หรือเปล่
    • เลือกบริษัทที่มีประสบการณ์กับรถ EV: ตรวจสอบว่าเครือข่ายหรือศูนย์บริการรองรับรถรุ่นคุณครบถ้วนหรือไม่ รวมถึงมีบริการฉุกเฉิน เช่น บริการลาด-ชาร์จไฟ-ช่วยเหลือแบตเตอรี่ไหม
  • เช็กว่าศูนย์บริการ/อู่ซ่อมรองรับรถคุณไหม

    ไม่ใช่ทุกบริษัทประกันที่จะมีอู่หรือศูนย์ซ่อมที่รองรับรถไฟฟ้าทุกรุ่น ก่อนซื้อประกันควรถามให้ชัดเจนว่ารถรุ่นของคุณซ่อมห้างหรือซ่อมอู่ในเครือได้ไหม? มีศูนย์หรืออู่ในจังหวัดของคุณหรือไม่? อะไหล่มีพร้อมหรือรอต่างประเทศ?

  • เช็กทุนประกันและเงื่อนไขคุ้มครองแบตรถไฟฟ้า

    ทุนประกันสำหรับรถ EV ควรสูงพอจะคุ้มค่ารถและแบตเตอรี่ ซึ่งมีราคาสูงถึง 30-50% ของรถ แนะนำให้เช็กว่าความเสียหายต่อแบตเตอรี่รวมอยู่ในทุนประกันหรือไม่ (บางเจ้าอาจมีข้อยกเว้นกรณีไฟไหม้หรือน้ำท่วม)

การขับรถ EV แม้จะลดภาระค่าน้ำมันและช่วยลดมลพิษ แต่ในด้านของเบี้ยประกันรถไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ารถทั่วไปอย่างชัดเจน โดยมีปัจจัยหลักมาจากระบบไฟฟ้า, ราคาอะไหล่รถ, และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบตเตอรี่รถไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูงมาก หากคุณกำลังวางแผนจะซื้อรถ อย่าลืมเช็กราคาประกันรถไฟฟ้าพร้อมเปรียบเทียบหลายบริษัทเพื่อหาดีลที่คุ้มค่าที่สุด

คำจำกัดความ

อินเวอร์เตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)
ข้อพิพาท ข้อขัดแย้งระหว่างคู่กรณี
ความยืดหยุ่น รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว, รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา, เปลี่ยนแปลงได้ไม่ตายตัว

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

02 080 9292 @mrkumka

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่