5 รถราคาไม่ตก ใช้จนคุ้ม 10 ปี ก็ยังขายง่าย

แชร์ต่อ
5 รถราคาไม่ตก ซื้อ-ขายรถมือสองตอนไหนก็คุ้ม

       กำลังมองหา รถราคาไม่ตก ใช้นานกว่า 10 ปี ก็ยังขายได้ราคาดีอยู่ใช่ไหมล่ะ? เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รถยนต์” เป็นสินทรัพย์ที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากจะต้องมองในส่วนของความคุ้มค่าแล้ว ก็ยังจะต้องมองในเรื่องของ “ราคาขายต่อ” หากคุณเป็นคนที่เบื่อง่าย ชอบเปลี่ยนรถบ่อย มาเช็กก่อนซื้อกันดีกว่าว่ามีรถยี่ห้อไหนที่ขายต่อแล้วยังได้ราคาดีบ้าง แม้ว่าจะใช้เป็นเวลานานแล้วก็ตาม!

 

5 รถราคาไม่ตก ซื้อ-ขายตอนไหนก็คุ้ม!

 

ต้องยอมรับว่า “ตลาดรถยนต์” ในปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อมีรถยนต์ยี่ห้อ หรือรุ่นใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ก็ทำให้รุ่นที่มีก่อนหน้า “ตกรุ่น” และ “ราคาตก” ไปตาม ๆ กัน แต่ก็ยังมีรถยนต์บางยี่ห้อและบางรุ่น ที่ไม่ว่าจะใช้งานมานานแค่ไหน และต้องการขายต่อเวลาใด ก็ยังขายได้ราคาดี ถูกใจเจ้าของรถพอสมควร ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!

 

1. Toyota Fortuner รุ่น 2020

รถยนต์ Toyota Fortuner เป็นรถยนต์ประเภท PPV ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 เพราะมาพร้อมกับที่ดูดีมีระดับ และฟังก์ชันเสริมที่ครบเครื่อง แฝงไปด้วยความดุดันเป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้รถยนต์รุ่นนี้สามารถไปต่อได้อีกยาว ๆ เนื่องจากความต้องการในตลาดรถมือสองสูง ราคาไม่ตกง่าย ๆ อย่างแน่นอน

 

  • ราคาจำหน่าย (ป้ายแดง): เริ่มต้นที่ 1,104,000-1,536,000 บาท
  • ราคาจำหน่าย (มือสอง): 780,000-1,050,000 บาท

 

2. Isuzu D-Max

Isuzu D-Max รถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล มีความแรงให้เลือกหลายระดับ แถมยังมีศูนย์บริการทั่วประเทศ แถมยังเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมาก ซึ่งในตลาดรถมือสองก็ถือว่าได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากรถของคุณยังอยู่ในสภาพดีแล้วล่ะก็ บอกเลยว่ากระบะมือสองขายตอนไหนก็คุ้ม!

 

  • ราคาจำหน่าย (ป้ายแดง): เริ่มต้นที่ 469,000-599,000 บาท
  • ราคาจำหน่าย (มือสอง): 430,000-480,000 บาท

 

3. Honda Jazz รุ่นปี 2019

Honda Jazz รุ่นปี 2019 นับเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ใคร ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม ปราดเปรียว ตอบโจทย์ทุกการขับเคลื่อนบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง หาที่จอดก็ง่าย คล่องตัว แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของ “พื้นที่เก็บสัมภาระ” ที่สามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มขนาดของพื้นที่ให้กว้างขึ้นได้

 

  • ราคาจำหน่าย (ป้ายแดง): เริ่มต้นที่ 590,000-715,000 บาท
  • ราคาจำหน่าย (มือสอง): 420,000-520,000 บาท

 

4. Honda CRV รุ่นปี 2018

Honda CRV เป็นรถยนต์ประเภท SUV ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสายครอบครัวได้ค่อนข้างมาก แถมยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่หรูหรา ทันสมัย และมี “ระบบควบคุมอัจฉริยะ” ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน แถมรองรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E85 อีกด้วย

 

  • ราคาจำหน่าย (ป้ายแดง): เริ่มต้นที่ 1,168,000-1,543,000 บาท
  • ราคาจำหน่าย (มือสอง): 750,000-890,000 บาท

 

5. Toyota Vios รุ่นปี 2019

Toyota Vios รุ่นปี 2019 มีการเพิ่มออฟชั่นเพิ่มเติม พร้อมกับปรับรุ่นย่อยให้คุณมีตัวเลือกที่เพิ่มขึ้น เปิดตัวมาพร้อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างครบครัน ช่วยให้การใช้รถใช้ถนนเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด ไม่ว่าขับขี่ในเมือง นอกเมือง หรือที่ไหน ๆ บอกเลยว่าเล็ก ๆ แบบนี้ก็เอาอยู่! หากคุณต้องการขายต่อรถยนต์รุ่นนี้แล้วล่ะก็ บอกเลยว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน

 

  • ราคาจำหน่าย (ป้ายแดง): เริ่มต้นที่ 559,000-734,000 บาท
  • ราคาจำหน่าย (มือสอง): 390,000-530,000 บาท

 

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับขายรถมือสอง

 

และทั้งหมดนี้ก็คือเป็นรถยนต์ “ขายต่อไม่มีตก” ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในตลาดรถยนต์มือสอง เพราะนอกจากราคาจะสวยงามตามท้องเรื่องแล้ว ฟังก์ชันและระบบต่าง ๆ ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่น ๆ ควบคู่กันไป แต่ถ้าหากต้องการขายรถยนต์คู่ใจที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน อย่าลืม “ศึกษาตลาด” ให้ดีซะก่อน และรู้ว่าเช็คสภาพรถอย่างไร

 

อยาก “ขายรถมือสอง” โอนรถข้ามจังหวัดต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ?

 

หากคุณศึกษาตลาดรถยนต์มือสองเป็นอย่างดี และพอใจกับราคาขายในตอนนี้ เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อม ก็สามารถขายรถยนต์คู่ใจได้ทันที !

 

  • 1. สมุดเล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง เป็นเอกสารที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ขายเป็น “เจ้าของตัวจริง” หรือไม่

  •  

  • 2. สำเนาบัตรประชาชน แนะนำให้เตรียมเอาไว้ 2 ชุด (สำหรับมอบอำนาจ 1 ใบ และโอนรถยนต์ 1 ใบ) เพื่อกำกับเอาไว้ว่า “ยินยอมขายรถยนต์คันนี้ให้จริง” หรือเป็นการยืนยันการซื้อ-ขายที่ถูกต้องนั่นเอง

  •  

  • 3. สัญญาซื้อขาย สามารถนำแบบฟอร์มจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ได้เลย ด้วยการค้นหาว่า “สัญญาซื้อขายรถยนต์” ซึ่งเป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับ “การโอนรถยนต์” ที่กรมขนส่งทางบก

  •  

  • 4. หนังสือโอนรถยนต์ เป็นหนังสือที่ใช้ในการเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์เดิม มาเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่ สามารถขอหนังสือโอนรถยนต์ได้ที่ “กรมขนส่งทางบก” โดยผู้ขายจะต้องเป็นฝ่ายเตรียมมาให้พร้อม

  •  

  • 5. หนังสือมอบอำนาจ ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ผู้ขายไม่สะดวกที่จะเดินทางไปโอนรถยนต์ ให้กับผู้ซื้อที่กรมขนส่งทางบก และเปลี่ยนมาใช้วิธีการ “โอนลอย” หลังจากนั้นก็มอบหนังสือมอบอำนาจให้ผู้ซื้อไปจัดการต่อให้เสร็จเรียบร้อย

  •  

เป็นอย่างไรกันบ้าง ? สำหรับรายละเอียด “รถยนต์ราคาดี ขายทั้งที ไม่มีแห้ว” ที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้น ตรงกับรถยนต์คู่ใจที่บ้านของคุณอยู่หรือเปล่า และถ้าหากคุณมีแพลนที่จะขายรถยนต์แล้วล่ะก็ นอกจากจะต้องดูแลรักษารถให้ดีแล้ว ยังจะต้องศึกษาตลาดก่อนตัดสินใจขายด้วย ในทางกลับกันหากคุณเป็น “ผู้ซื้อ” ก็อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ เพื่อเพิ่มความอุ่นในให้กับการใช้รถใช้ถนนด้วย เพราะอุบัติเหตุไม่เลือกเวลาเกิด มี “เกราะป้องกัน” ไว้ก่อนดีที่สุด

 

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่