วิธีคํานวณผ่อนรถมือสอง เลือกผ่อนอย่างไรให้ดอกเบี้ยไม่ท่วม

แชร์ต่อ
วิธีคํานวณผ่อนรถมือสอง ค่างวดแต่ละเดือน

       เมื่อเลือกใช้รถมือสอง ทางเลือกที่ช่วยให้คนอยากมีรถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ คุณจะต้องรู้วิธีคํานวณผ่อนรถมือสองให้ดี เพื่อให้คุณได้รถที่ใช่ในงบประมาณที่กำหนดไว้ ในส่วนนี้มีหลายคนมาก ๆ ที่กำลังสับสนว่าการผ่อนชำระค่างวด จะแตกต่างจากการผ่อนรถป้ายแดงแค่ไหน มีวิธีการคำนวณเป็นอย่างไรหากจะผ่อนรถมือสองสักคัน ดังนั้นเพื่อให้คุณมีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจที่มากขึ้น MrKumka ได้รวบรวมวิธีการคำนวณแบบง่าย ๆ มาให้ทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

 

ปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาคํานวณผ่อนรถมือสอง เสมอ

 

ตามปกติแล้วการ “เช่าซื้อรถ” รถมือสอง หรือรถป้ายแดง มักจะมีค่าใช้จ่ายเป็น “ค่างวด” ในแต่ละเดือน ด้วยการคำนวณมาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

 

  • 1. มูลค่ารถยนต์ที่จะทำการกู้ผ่านสถาบันการเงิน (หักเงินดาวน์แล้ว)
  • 2. ดอกเบี้ย
  • 3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

 

แต่การเช่าซื้อรถมือสองอาจจะมีความแตกต่างจากรถป้ายแดงตรงที่ “ราคารถ” ที่ถูกกำหนดไว้จากคนขาย โดยส่วนใหญ่จะยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% หากคุณต้องการคำนวณอย่างแม่นยำ จำเป็นจะต้องเพิ่มส่วนนี้เข้าไปคำนวณด้วย โดยสามารถบวกเพิ่มได้ทั้งในราคารถหรือค่างวดรถก็ได้

 

เคล็ดลับผ่อนรถให้เสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด

 

วิธีคำนวณค่างวดรถมือสอง

 

สำหรับการคำนวณค่างวดรถมือสอง มีข้อมูลที่คุณจำเป็นจะต้องรู้ ดังนี้

 

  • วิธีคิดยอดจัดซื้อรถยนต์ : ราคารถ-เงินดาวน์
  • วิธีคิดดอกเบี้ยรถทั้งหมด : (ยอดจัดซื้อxดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน)xจำนวนปีที่ผ่อนชำระ

ยกตัวอย่าง : หากคุณต้องการซื้อรถยนต์ Honda City ราคาขายจากเต็นท์อยู่ที่ 410,000 บาท วางดาวน์ 20% ผ่านสถาบันการเงินที่คิดดอกเบี้ย 7% ต่อปี เป็นระยะเวลา 48 งวด มีวิธีการคำนวณแบบเบ็ดเสร็จดังนี้

 

  • 1. ยอดจัดซื้อรถยนต์ = ราคารถ-เงินดาวน์ = 328,000 บาท
    • ราคารถ : 410,000 บาท
    • เงินดาวน์ : 410,000×20% = 82,000 บาท
  •  

  • 2. ดอกเบี้ยทั้งหมด = (ยอดจัดซื้อxดอกเบี้ยต่อปีของสถาบันการเงิน)xจำนวนปีที่ผ่อนชำระ
    • (328,000×8%)x4 = 104,960 บาท
  •  

 

เมื่อนำยอดจัดซื้อมารวมกับดอกเบี้ย แล้วทำการหารด้วยจำนวนเดือน ก็จะได้ค่าผ่อนชำระอยู่ที่ 7,380 บาท เมื่อรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ก็จะมีค่างวดรถอยู่ที่ 7,896.6 บาทต่อเดือน ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าค่างวดรถในแต่ละเดือนนั้น ทางไฟแนนซ์ได้ทำการ “ควบรวม” ค่ารถและดอกเบี้ยเรียบร้อยแล้ว หากคุณมีเงินก้อนใหญ่ที่ตั้งใจจะ “โปะ” เพื่อลดดอกเบี้ยให้น้อยลง กับการผ่อนรถนั้นไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด แต่ในทางกลับกันหากต้องการทำให้ระยะเวลาผ่อนน้อยลง การโปะเงินจะถือเป็นเหตุผลที่จะช่วยคุณได้ในเรื่องนี้

 

รู้ก่อนซื้อว่า “คนมีรถนั้นไม่ได้จ่ายแค่ค่างวดรถ !”

 

การตัดสินใจซื้อรถยนต์คู่ใจสักคัน ไม่ว่าจะรถมือสองก็ดี หรือรถมือหนึ่งก็ดี บอกเลยว่าไม่ได้จบแค่ค่างวดรถที่ต้องผ่อนชำระทุกเดือนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่มีความ “ไม่แน่นอน” ในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งในส่วนนี้คุณจะต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมเสมอ เช่น ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ค่าที่จอดรถ และค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของคุณ

 

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพื่อความอุ่นใน ที่คุณ “จำเป็น” จะต้องจ่ายเป็นประจำทุกปีอย่าง “ประกันภัยรถยนต์” เพราะจะให้ทั้งความคุ้มครองและการชดเชยค่าเสียหาย ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน (อุบัติเหตุ) อย่างครอบคลุม ซึ่งในส่วนนี้แนะนำให้คิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนด้วยเช่นกัน แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ แนะนำให้เช็กเบี้ยประกันและความคุ้มครองให้ดีก่อน หากไม่รู้จะไปเปรียบเทียบกับที่ไหน MrKumka ช่วยคุณได้ !

 

Tips ผ่อนรถให้เสียดอกเบี้ยลง ทำอย่างไร ?

 

แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจมอยู่กับดอกเบี้ยก้อนโตเป็นเวลานาน ๆ อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะมาบอกต่อ “เคล็ดลับ” ผ่อนรถให้เสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด ดังนี้

 

  • 1. จ่ายค่างวดครึ่งหนึ่งทุก ๆ 2 สัปดาห์

    การจ่ายค่างวดรถทุก ๆ 2 สัปดาห์ จะทำให้เพิ่มจำนวนครั้งในการจ่าย เช่น จาก 12 ครั้ง มาเป็น 24 ครั้ง ซึ่งในส่วนนี้จะไปตัดเงินต้นและดอกเบี้ยในจำนวนเงินเท่าเดิม ส่งผลให้เงินต้นและอัตราดอกเบี้ยลดลงกว่าเดิมทุก ๆ 2 สัปดาห์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคุณควรเช็กกับบริษัทไฟแนนซ์ก่อน เพราะบางที่อาจไม่ได้ลดดอกเบี้ยให้ทุกครั้ง เนื่องจากดอกเบี้ยได้รับการหารเฉลี่ยไปแล้วทุก ๆ เดือน

  •  

  • 2. จ่ายยอดเงินเกินค่างวดทุกครั้งที่มีโอกาส

    หากคุณเช็กแล้วว่าบริษัทไฟแนนซ์ของคุณ สามารถจ่ายค่างวดในแต่ละเดือนเกินได้ แถมยังช่วยลดดอกเบี้ยได้ทุกครั้ง แนะนำให้จ่ายค่างวดให้มียอดมากกว่าปกติ เช่น ยอดปกติ 10,000 บาท ก็ให้จ่ายเพิ่มเป็น 15,000-20,000 บาท (ถ้ามีโอกาส) เพราะเงินส่วนเกินที่จ่ายเพิ่มมา จะค่อย ๆ ทยอยไปรวมกันครบได้ทีละงวด ๆ ซึ่งนั่นจะช่วยให้จำนวนงวดค่างวดผ่อนรถของคุณลดลงด้วยอีกทาง

  •  

 

การซื้อรถมือสอง นอกจากจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อแล้ว การเลือกซื้อประกันรถยนต์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากคุณจะได้รถที่ใช่ ตามงบที่ชอบ คุณยังจะได้รับความคุ้มครองที่อุ่นใจตลอดการเดินทาง หากคุณยังเลือกไม่ได้ว่าจะซื้อประกันรถยนต์ที่ไหน หรือต้องเลือกกรมธรรม์อย่างไร MrKumka พร้อมส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณเสมอ ลองแวะเข้ามา “เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์” ก่อนตัดสินใจซื้อ คลิกเลย ! ความอุ่นใจที่ราคาคุ้มค่ากำลังรอคุณอยู่

 

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่