การเลือกประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน แต่ในหลาย ๆ ครั้งเมื่อถึงเวลาต่อประกัน ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่กลับเลือกที่จะ “ต่อประกันรถยนต์ที่เดิม” แม้เบี้ยประกันอาจสูงขึ้นจากปีที่แล้วหรือมีตัวเลือกที่ดีกว่าในตลาด
หรือบางคนมั่นใจกับบริษัทเดิมทั้งที่ไม่เคยเคลมประกันกับบริษัทนั้นเลยสักครั้ง แต่เพียงเพราะว่า “ตัดปัญหา” ไม่อยากวุ่นวาย อยากให้ประกันคุ้มครองรถไปเลยอัตโนมัติ ทั้งที่จริงแล้วในสมัยนี้การทำประกันรถยนต์ง่ายแค่ไหน การเปลี่ยนประกันก็ง่ายไม่ต่างกัน แต่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายจากเบี้ยประกันต่อปีได้จำนวนมาก หรือได้การคุ้มครองที่สูงกว่าเดิมทั้งที่จ่ายเท่าเดิม
มิสเตอร์ คุ้มค่า จึงอยากพาคุณไปทำความเข้าใจเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนไม่เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ว่าทำไมการเปลี่ยนประกันจะช่วยให้คุณได้กรมธรรม์ที่คุ้มค่ากว่าเดิม ตามไปดูกัน
เหตุผลที่หลายคนกลัวการเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์?
การเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์อาจดูเหมือนเป็นการตัดสินใจที่ดี แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ ‘กลัว’ ทั้งที่มันอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หรือเพิ่มความคุ้มครองที่ดีกว่า และทั้งหมดนี้คือเหตุผลบางส่วนที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกกลัวการเปลี่ยนแปลง
ไม่แน่ใจในบริการและความคุ้มครอง
ผู้ขับขี่หลายคนรู้สึกมั่นใจในความคุ้มครองเมื่อต่อประกันรถยนต์ที่เดิมมากกว่า เพราะมีประสบการณ์และรู้ถึงข้อดี-ข้อเสียของกรมธรรม์ที่ใช้บริการอยู่แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนตัวแทนประกันรถยนต์ อาจทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่าจะได้รับความคุ้มครองในระดับที่คุ้มค่า
กลัวว่าจะเคลมยากขึ้น หรือไม่ได้รับเงินชดเชยเต็มจำนวน
หลายคนกลัวว่าหากเกิดอุบัติเหตุ และต้องการเคลมประกันจากบริษัทใหม่ อาจพบปัญหาในการเคลมหรือไม่ได้รับเงินชดเชยเต็มจำนวนเหมือนกับที่เคยได้รับจากบริษัทเดิม
กลัวว่าเคลมประกันแล้วเบี้ยเพิ่ม
แม้ว่าการเปลี่ยนประกันรถยนต์อาจทำให้ค่าเบี้ยประกันต่ำลง แต่บางคนก็กลัวว่าเคลมประกันแล้วเบี้ยเพิ่มหลังจากเปลี่ยน ด้วยปัจจัยดังนี้
- ประวัติการเคลม: หากมีประวัติการเคลมบ่อย บริษัทประกันอาจเจอกับเคลมรถ เบี้ยประกันเพิ่มขึ้น หรือแม้กระทั่งไม่รับประกันใหม่ หากมีประวัติเคลมหนัก
- กลัวข้อเสนอจากบริษัทใหม่ไม่ดี: บางคนกลัวว่าบริษัทประกันใหม่จะให้ข้อเสนอที่ดูดีในตอนแรก แต่ค่าเบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อถึงปีถัดไป
กลัวการยกเลิกกรมธรรม์เดิม
การยกเลิกกรมธรรม์เดิมอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป หลายคนกลัวว่าไม่สามารถยกเลิกประกันเดิมได้อย่างราบรื่น หรืออาจเสียค่าธรรมเนียมในการยกเลิกกรมธรรม์
- การยกเลิกก่อนกำหนด: บางบริษัทฯ มีการคิดค่าธรรมเนียมในการเวนคืนประกันรถยนต์ก่อนกำหนด ซึ่งอาจทำให้ต้องจ่ายค่าปรับหรือสูญเสียเงินบางส่วนจากการยกเลิก
- การค้างชำระค่าประกัน: หากยังค้างชำระค่าเบี้ยประกันบางส่วนในระหว่างปี บริษัทประกันเดิมอาจไม่ยินยอมให้ยกเลิกกรมธรรม์ได้ทันที
พร้อมที่จะเปรียบเทียบประกันรถยนต์หรือยัง?
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ
การตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ ควรพิจารณาอะไรบ้าง?
การตัดสินใจเปลี่ยนประกันรถยนต์หรือเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำโดยไม่พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผลต่อความคุ้มครอง ความปลอดภัย และค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
เบี้ยประกันที่ต้องจ่าย
การเปลี่ยนประกันรถยนต์อาจช่วยลดค่าเบี้ยประกันได้ แต่ก็อาจมีการเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประวัติการขับขี่ ประสบการณ์การเคลม หรือชนิดของประกันที่คุณเลือก
- เปรียบเทียบราคากับบริษัทอื่น: บางครั้งการเลือกบริษัทใหม่ สามารถช่วยลดค่าเบี้ยประกันได้ โดยเฉพาะหากบริษัทเดิมมีการปรับราคาที่สูงขึ้นในปีต่อไป
- ระวังค่าเบี้ยต่ำเกินไป: เบี้ยที่ต่ำเกินไปอาจหมายถึงความคุ้มครองที่ไม่ครบครัน ดังนั้นต้องมั่นใจว่าได้ประกันที่ครอบคลุมและคุ้มค่า
ควรทำยังไงเมื่อเคลมประกันแล้วเบี้ยเพิ่มขึ้น?
เมื่อคุณพบว่าเมื่อเคลมประกันแล้วเบี้ยเพิ่มจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปัจจัยจากบริษัทประกัน ความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น การเคลมประกันและประวัติการขับขี่ ฯลฯ คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อหาทางออกได้
- เปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทอื่น: เปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ และข้อเสนอจากบริษัทประกันอื่น ๆ เพื่อหาทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด
- ตรวจสอบความคุ้มครอง: ควรพิจารณาว่าคุณยังคงต้องการความคุ้มครองเหมือนเดิม หรือสามารถปรับลดความคุ้มครองบางประการเพื่อลดค่าเบี้ย
- เจรจากับตัวแทนประกัน: หากคุณเป็นลูกค้าประจำของบริษัทประกันเก่า อาจลองเจรจาขอส่วนลด หรือเปลี่ยนแผนประกันเพื่อให้เบี้ยไม่สูงเกินไป
- เลือกบริษัทที่มีบริการดี: อย่าลืมว่าเบี้ยประกันอาจไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการตัดสินใจ ควรเลือกบริษัทที่ให้บริการและเคลมประกันที่รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ
ประสบการณ์การเคลมที่ผ่านมากับบริษัทเดิม
หากคุณเคยเคลมประกันแล้วมีประสบการณ์ไม่ดี เช่น เคลมช้า หรือไม่สามารถได้รับค่าชดเชยตามที่คาดหวัง การเลือกตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทประกันอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เช็คเบื้องต้นเพื่อบริษัทประกันที่ถูกจริตกับคุณได้ดังนี้
- ตรวจสอบบริการหลังการขาย: ควรตรวจสอบว่าบริษัทใหม่มีระบบเคลมรอบคัน ประกันชั้น 1 ที่รวดเร็ว และมีการดูแลลูกค้าอย่างไร
- รีวิวจากผู้ใช้บริการ: คำแนะนำจากผู้เคยใช้บริการ สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าบริษัทใดให้บริการเคลมที่น่าพอใจ
ความคุ้มครองที่เหมาะสม
บางครั้งบริษัทเดิมอาจไม่เสนอความคุ้มครองที่คุณต้องการ หรือมีการลดความคุ้มครองในบางด้าน เพื่อให้ค่าเบี้ยประกันต่ำลง
- ตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครอง: ก่อนตัดสินใจยกเลิกประกันรถยนต์กับโบรกเกอร์ ให้เปรียบเทียบว่าบริษัทประกันใหม่ ให้ความคุ้มครองที่ครบถ้วน และเหมาะสมกับความต้องการของคุณหรือไม่
- เพิ่มหรือขยายความต้องการ: บางครั้งการเลือกเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ อาจทำให้คุณเพิ่มความคุ้มครองได้ในราคาที่ไม่แพงเกินไป
เปลี่ยนประกันรถยนต์ ทำยังไง?
การเปลี่ยนประกันส่วนใหญ่คนเลือกที่จะเปลี่ยนเป็นเจ้าใหม่เมื่อกรมธรรม์เดิมหมด แต่หากคุณต้องการเปลี่ยนทันที ขั้นตอนไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มจากเลือกซื้อประกันใหม่เพื่อให้คุ้มครองรถคุณก่อน ป้องกันช่วงเวลาเว้นว่างจากการที่รถไม่มีประกัน แล้วค่อยไปทำเรื่องยกเลิกประกันกับบริษัทเก่า ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณอาจได้คืนค่าเบี้ยประกันกลับคืนมาบางส่วนด้วย แต่จะไม่ได้เต็มเท่าสัดส่วนคุ้มครองรายวันที่ประกันคุ้มครองมา
4 ขั้นตอนขอยกเลิกประกันทำยังไง?
- แจ้งยกเลิกและติดต่อบริษัทเดิม
- เตรียมและยื่นเอกสารสำคัญทั้งสำเนาบัตรประชาชน, สำเนา/ฉบับจริงกรมธรรม์, แบบฟอร์มยกเลิก, และ สำเนาบัญชีธนาคาร(เพื่อรับเงินคืน)
- รอการคำนวณเบี้ยคืน บริษัทคำนวณเงินคืนโดยใช้ ตารางเบี้ยประกันภัยระยะสั้น
- รอรับเงินค่าเบี้ยคืน บริษัทโอนเงินค่าเบี้ยประกันคืนเข้าบัญชีของคุณภายในระยะเวลาที่กำหนด ตามเงื่อนไขของบริษัทประกันแต่ละที่ เช่น 15-30 วัน
การเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน และการกลัวการเปลี่ยนตัวแทนประกันรถยนต์อาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเคลมยาก ค่าเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ความไม่มั่นใจในการบริการและความคุ้มครองใหม่ ฯลฯ การเข้าใจและเตรียมตัวเปลี่ยนประกันรถยนต์ทุกปีอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ จะช่วยให้คุณลดความกลัวและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คำจำกัดความ
| เวนคืนกรมธรรม์ | การขอยกเลิกสัญญาประกันภัยก่อนครบกำหนดเพื่อรับเงินคืนตามมูลค่าที่ระบุไว้ในตารางมูลค่ากรมธรรม์ |
| เคลมรอบคัน | การแจ้งบริษัทประกันภัยให้ซ่อมแซมความเสียหายของรถยนต์ให้ทั้งคันในครั้งเดียว โดยเฉพาะรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ หรือรอยถลอกต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต้องเป็น ประกันชั้น 1 จึงจะสามารถเคลมลักษณะนี้ได้ |
| การเคลมหนัก | การเคลมประกันภัยรถยนต์ที่มีความเสียหายรุนแรง เช่น ความเสียหายที่โครงสร้างรถ หรือค่าซ่อมสูงเกินกว่ามูลค่ารถ ทำให้รถไม่คุ้มค่าที่จะซ่อม |



