วิธีผ่อนรถให้หมดเร็ว ปลอดภาระหนี้ไวก็ใช้ชีวิตสบายกว่า

แชร์ต่อ
เทคนิคเก็บเงินผ่อนรถให้หมดเร็ว

สำหรับคนที่กำลังผ่อนรถอยู่ และกำลังมองหา วิธีผ่อนรถให้หมดเร็ว บอกเลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว ! เพราะเราได้รวบรวมวิธีผ่อนรถให้ปลอดภาระหนี้เร็วขึ้น แบบที่ไฟแนนซ์ไม่เคยแนะนำมาก่อน ซึ่งเคล็ดลับที่เรานำมาบอกต่อในวันนี้ จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร และเป็นประโยชน์ต่อคุณมากน้อยแค่ไหน ? MrKumka จะอธิบายให้ฟัง !

บอกต่อ 5 วิธีผ่อนรถให้หมดเร็ว

5 วิธีผ่อนรถให้หมดเร็ว ปลอดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น

เคล็ดลับผ่อนรถให้ปลอดภาระหนี้ได้เร็วขึ้นที่เรานำมาบอกต่อ มีทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 1. จ่ายยอดเกินค่างวดทันทีที่มีโอกาส

    ก่อนอื่นต้องตรวจสอบก่อนว่า บริษัทไฟแนนซ์ของคุณสามารถจ่ายค่างวดเกินกว่าที่กำหนดได้หรือไม่ และถ้าหากสามารถทำได้ ดอกเบี้ยลดลงทุกครั้งหรือเปล่า ? หากทำได้และดอกเบี้ยลดลง แนะนำให้จ่ายยอดมากกว่าปกติจะดีกว่า เช่น ปกติจ่ายค่างวด 10,000 บาทต่อเดือน และในเดือนนั้นคุณมีเงินมากพอที่จะจ่ายเพิ่มได้ ให้จ่ายค่างวดเพิ่มเป็น 15,000 บาท เพราะการทำแบบนี้จะช่วยให้ระยะเวลาในการผ่อน ดอกเบี้ย และเงินต้นลดลง

  • 2. จ่ายค่างวด 50% ทุก ๆ 2 สัปดาห์

    การจ่ายค่างวดรถยนต์ทุกๆ 2 สัปดาห์ จะทำให้มีจำนวนการจ่ายที่มากขึ้น เช่น จากเดิมปีละ 12 ครั้ง จะกลายเป็นปีละ 24 ครั้ง โดยเงินที่คุณจ่ายไปนั้นจะไปตัดเงินต้น และดอกเบี้ยในจำนวนเงินเท่าเดิม แต่กลับทำให้เงินต้นและอัตราดอกเบี้ยลดลงในทุก ๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งแนะนำให้ทำการสอบถามรายละเอียดในส่วนนี้กับบริษัทไฟแนนซ์ก่อน ว่ากรณีนี้สามารถทำได้หรือไม่ และมีการลดดอกเบี้ยในทุกครั้งที่จ่ายหรือเปล่าเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของคุณเอง

  • 3. หลีกเลี่ยงการจ่ายค่างวดล่าช้า

    ในทุก ๆ ครั้งที่คุณจ่ายค่างวดช้าจะพาปัญหามากมายตามมาอย่างคาดไม่ถึง คุณจะต้องพบเจอกับค่าธรรมเนียมและค่าปรับ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการคิดดอกเบี้ยแบบผิดนัดชำระเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดจ่ายค่างวดช้าเป็นอันขาดหากคิดจะผ่อนรถให้หมดไว

  • 4. ลดอัตราดอกเบี้ยให้ถูกลงด้วยการ “รีไฟแนนซ์

    การรีไฟแนนซ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือการที่คุณสามารถทำให้ดอกเบี้ยได้ถูกลง และจ่ายค่างวดได้สูงกว่าเดิมเท่านั้น เพราะอย่าลืมว่าการรีไฟแนนซ์คือการ “ย้ายเจ้าหนี้” ที่ไม่ได้ทำให้เงินต้นลดลงเสียอย่างใด แต่อย่างน้อยทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงได้บ้างก็ยังดี

  • 5. ต่อรองกับบริษัทไฟแนนซ์เดิม

    การต่อรองกับบริษัทไฟแนนซ์เดิม อาจเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุด ในการช่วยให้การผ่อนรถของคุณหมดเร็วกว่าเดิม โดยไม่จำเป็นต้องรีไฟแนนซ์หรือกู้เงินมาเพื่อโปะเพิ่ม เพียงแต่จะต้องทำการสอบถามในเรื่องต่าง ๆ อย่างละเอียด เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาในการผ่อน ซึ่งคุณอาจจะได้รับข้อสรุปที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้

ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับการผ่อนรถให้หมดเร็วขึ้น ที่บริษัทไฟแนนซ์ไม่เคยแนะนำคุณมาก่อน และเชื่อว่าหลายคนก็คงจะรู้พร้อมๆ คุณในวันนี้ด้วยเช่นกัน หากคุณมีเงินมากพอที่จะโปะปิดยอดได้ ประกอบกับการโปะจะช่วยลดดอกเบี้ยได้อย่างไม่น่าเชื่อ แนะนำให้โปะไปเลยจะดีที่สุด แต่ถ้าหากมีกำลังไม่มากพอ การรีไฟแนนซ์อาจจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคุณ!

ผ่อนรถหมดเร็วดียังไง ?

แม้ว่าการผ่อนรถจะใช้เวลาในการผ่อนไม่นานเท่าอสังหาฯ แต่เมื่อไม่มีหนี้ ย่อมเป็นลาภอันประเสริฐ อย่างน้อยยังใช้เวลาร่วมปีกว่าคุณจะผ่อนหมด หากคุณสามารถผ่อนค่างวดให้หมดได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้คุณห่างไกลจากดอกเบี้ยที่แพงแสนแพง แถมยังไม่ต้องเป็นหนี้นาน ๆ อีกด้วย และต่อให้คุณมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม สามารถผ่อนรถให้หมดเร็วได้ เพียงนำเคล็ดลับที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้นไปปรับใช้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ชีวิตของคุณปลอดภาระได้แล้วล่ะ !

เทคนิคเก็บเงินผ่อนรถให้หมดเร็ว

ก่อนอื่นคุณต้องถามตัวเองให้ดีก่อนว่า ต้องการซื้อรถแบบไหน ราคาเท่าไหร่ และเลือกชำระเงินแบบไหน หากถามจนได้คำตอบจนแน่ชัดแล้ว ให้เริ่มเก็บเงินเพื่อผ่อนรถดังนี้

  • เก็บเท่าเงินผ่อนจ่าย

    เช่น ผ่อนชำระค่างวดเดือนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 60 เดือน แนะนำให้เก็บเงินอย่างน้อย 4,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน – 1 ปี รวมถึงสังเกตให้ดีกว่าการเก็บเงินลักษณะนี้ ทำให้การเงินของคุณติด ๆ ขัด ๆ หรือไม่ หากเงินจำนวนดังกล่าวยังทำให้คุณมีสภาพคล่องอยู่ ถือว่าคุณมีกำลังในการผ่อนรถแล้วล่ะ

  • ยอมแลกความสุขระยะสั้น

    หากคุณต้องการซื้อรถจริง ๆ อาจจะต้องเสียสละความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในระหว่างทางไปบ้าง เช่น การกินอาหารแพง ๆ การท่องเที่ยวในวันหยุด รวมถึงรางวัลชีวิต เพราะอาจจะกระทบกับสภาพคล่อง และทำให้การเก็บเงินผ่อนรถของคุณได้รับผลกระทบตามไปด้วย

ทำไมตอนผ่อนรถต้องมีประกันรถยนต์ ไม่ทำได้ไหม ?

แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ครอบครองรถยนต์โดยสมบูรณ์ แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณถือเป็น “ผู้ครอบครอง” ที่ต้องรับผิดชอบรถยนต์คันนั้นๆ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ใช่ความรับผิดชอบของบริษัทไฟแนนซ์แต่อย่างใด

ซึ่งถ้าหากจะถามว่า “รถติดไฟแนนซ์ไม่ทำประกันรถยนต์ได้หรือไม่” ตอบตรง ๆ เลยว่า “ได้” แต่ไม่คุ้มเสียแน่นอน เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาคุณจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากมาย เช่น การรับผิดชอบค่าเสียหาย ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจจะตามมาในอนาคต จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ควรละเลยการซื้อ “ความคุ้มครองภาคสมัครใจ” แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

ไม่ว่าคุณจะวางแผนในการผ่อนรถยนต์ให้หมดเร็วไว้ว่าอย่างไรก็ตาม
หัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ “ประกันรถยนต์” แม้จะเป็นภาระที่คุณจะต้องจ่ายควบคู่กับค่างวดรถ แต่อย่างน้อยจะช่วยให้คุณไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น และถ้าหากไม่รู้ว่าจะซื้อประกันประเภทไหน เลือกความคุ้มครองอย่างไร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ MrKumka คลิกเลย

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่