รับมือแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไปยังไง ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน

แชร์ต่อ
รับมือแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไปยังไง ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน | มิสเตอร์ คุ้มค่า

อย่างที่ทราบกันดีว่าฤดูร้อนของประเทศไทยนั้นเอาเรื่องสุด ๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่บางคนอาจคาดไม่ถึงมาก่อนว่าสภาพอากาศดังกล่าว อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไป และส่งผลให้เกิดอันตรายและความเสียหายอื่น ๆ ตามมาไม่รู้จบ แต่แท้จริงแล้วสาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกิดจากสภาพอากาศเพียงอย่างเดียวจริงไหม ? มีอะไรอีกบ้างที่คนมีรถจำเป็นต้องรู้ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมทุกประเด็นที่คุณสงสัยมาให้แล้ว ตามไปทำความเข้าใจกันเลย

สาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกิดจากอะไร ?

ก่อนที่จะไปเจาะลึกประเด็นวิธีการป้องกันและรับมือกับแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน เรามาทำความเข้าใจ “สาเหตุ” ที่ทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวกันก่อนดีกว่า ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ ดังนี้

  • 1. อุณหภูมิภายนอกสูงเกินไป

    ช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย อุณหภูมิพุ่งทะยานสูงถึง 35-40 องศาเซลเซียสหรือมากกว่า ซึ่งความร้อนขนาดนี้สามารถทำให้ของเหลวอิเล็กโทรไลต์ในแบตเตอรี่ระเหยเร็วขึ้น และอาจทำให้แผ่นตะกั่วภายในเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

  • 2. ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานอย่างหนัก

    การใช้งานเครื่องปรับอากาศ, วิทยุ, ระบบ GPS หรือแม้กระทั่งการชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือในรถอย่างต่อเนื่อง สามารถทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนได้ง่าย เพราะต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาเป็นจำนวนมาก

  • 3. แบตเตอรี่รถเก่า หรือหมดอายุการใช้งาน

    การใช้งานแบตเตอรี่มาเป็นเวลานาน (เกิน 2-3 ปี) โดยไม่ทำความสะอาด หรือไม่เปลี่ยนใหม่ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไป เนื่องจากประสิทธิภาพในการกักเก็บไฟฟ้าลดลง ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมมากขึ้นเมื่อมีการใช้งาน

  • 4. ระบบระบายความร้อนในห้องเครื่องทำงานไม่ดี

    หากระบบระบายความร้อนในรถยนต์ทำงานผิดปกติ หรือมีความร้อนสะสมภายในห้องเครื่องยนต์ แบตเตอรี่อาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน

  • 5. การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน

    แสงแดดและอุณหภูมิที่สูงมาก ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนได้ง่ายขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการจอดรถในที่โล่งและไม่มีร่มเงา ความร้อนจะสะสมจนส่งผลต่อแบตเตอรี่

หากรถยนต์ของคุณเป็นรถยนต์ไฟฟ้าและเกิดความผิดปกติกับแบตเตอรี่ อาจไม่ต้องกังวลใด ๆ มากมายนัก เนื่องจากมีประกันแบตรถยนต์ให้ความคุ้มครองอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเป็นรถยนต์สันดาปทั่วไป อาจต้องมีการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ทั้งนี้ทั้งนั้นแนะนำให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดีก่อน ว่าให้ความคุ้มครองในส่วนนี้หรือไม่

คลายข้อสงสัย รถแบตหมด เรียกประกันได้ไหม ?

ในกรณีที่รถยนต์คันโปรดของคุณไม่ได้เผชิญปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไป แต่เกิดจาก “รถแบตหมดเกลี้ยงกลางทาง” เชื่อว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยอยู่ลึก ๆ ว่ารถแบตหมด เรียกประกันมาช่วยได้ไหม? หากประกันรถยนต์ของคุณครอบคลุม “บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน” สามารถโทรแจ้งบริษัทเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที เพียงแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับอาการ และสถานที่เกิดเหตุ บริษัทก็จะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือทันที

แต่ถ้าหากประกันที่ทำไว้ไม่ครอบคลุม รวมถึงกรณีที่ไม่มีประกัน สามารถโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น..

  • 1193 : สายด่วนตำรวจทางหลวง ช่วยเหลือด้านการจราจรและเหตุฉุกเฉินบนทางหลวง
  • 1644 : ศูนย์บริการฉุกเฉินช่วยเหลือบนท้องถนน (ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง)
  • 1669 : ศูนย์บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน (กรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ)

นอกจากนี้หากรถเสีย แบตหมดจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ สามารถติดต่อศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ใกล้ที่สุดให้มาช่วย ‘ลากรถ’ ไปยังสถานที่ซ่อมแซมได้เช่นกัน

สังเกตุยังไงว่าแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน ?

สังเกตุยังไงว่าแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน ? | มิสเตอร์ คุ้มค่า

หากไม่อยากพบเจอกับความเสียหาย หรือปัญหาน่าปวดหัวอื่น ๆ ตามมา เจ้าของรถควรทำความเข้าใจสัญญาณที่กำลังบอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไปเอาไว้หน่อย เพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อาจส่งผลต่อส่วนประกอบภายในแบตเตอรี่ ลดประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ยังเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ซึ่งอาการที่บ่งชี้ปัญหาดังกล่าว มีวิธีสังเกตดังนี้

  • ไฟรูปแบตเตอรี่สว่างขึ้นมาบนแผงหน้าปัดรถของคุณ
  • เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เครื่องยนต์มีรอบหมุนช้า
  • เปิดฝากระโปรงรถขึ้นมาแล้วสัมผัสถึงความร้อนได้อย่างชัดเจน
  • แบตเตอรี่บวม หรือมีรูปทรงผิดปกติไปจากเดิม
  • ระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ต่ำ เป็นต้นเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนได้
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ เช่น ไฟสว่างจ้าเกินไป, ไฟกะพริบ หรือเสียงวิทยุแปลก ๆ
  • ได้กลิ่นเหม็นคล้ายไข่เน่า

วิธีป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไป มีอะไรบ้าง ?

เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นตามมา เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไป มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมวิธีป้องกันมาให้ทำความเข้าใจคร่าว ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นตั้งแต่แรก โดยมีวิธีดังต่อไปนี้

  • 1. ระวังสภาพอากาศ

    เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้รถเดินทางในวันที่สภาพอากาศร้อนจัด แนะนำให้หยุดพักรถบ่อย ๆ เพื่อให้เครื่องยนต์หรือแบตเตอรี่ไม่ร้อนจนเกินไป หรือถ้าหากไม่ได้ไปไหน ก็ควรนำรถเข้าจอดในที่ร่ม หลีกเลี่ยงการจอดกลางแดดตรง ๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดอุณหภูมิใต้กระโปรงรถได้ในระดับหนึ่ง

  • 2. ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่

    แบตเตอรี่รถยนต์ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี แบตเตอรี่เก่าหรืออ่อนอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เนื่องจากการทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทางที่ดีหากรู้ว่าแบตเก่า หรือมีรูปทรงที่ผิดแปลกไปจากเดิม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่หรือดำเนินการแก้ไขในทันที

  • 3. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น

    เพื่อให้แน่ใจว่าระดับน้ำหล่อเย็นในรถของคุณอยู่ในระดับปกติ หากมีน้ำหล่อเย็นไม่เพียงพออาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนอย่างรวดเร็ว และควรตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

เมื่อรถความร้อนขึ้นสูง รับมือยังไงดี ?

ไม่ว่าคุณจะพยายามระมัดระวัง หลีกเลี่ยงสาเหตุที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน หรือหาวิธีป้องกันมาดีแค่ไหนก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็หนีอาการ ‘โอเวอร์ฮีท (รถความร้อนขึ้น)’ ไม่พ้น ซึ่งพ่วงมากับค่าใช้จ่ายในการซ่อมมหาศาล เจอแบบนี้จะต้องรับมือยังไงให้ปลอดภัยมากที่สุด มิสเตอร์ คุ้มค่า จะเล่าให้ฟัง

  1. หาที่จอดรถข้างทางและดับเครื่องยนต์ทันที เพื่อให้ระบบเครื่องยนต์ได้หยุดทำงานก่อน
  2. เปิดฝากระโปรงรถเพื่อระบายความร้อน ห้ามนำน้ำไปราดบนเครื่องยนต์เด็ดขาด เพราะเหล็กที่กำลังร้อนจัด เมื่อเจอกับน้ำเย็นแบบฉับพลันจะเกิดการหดตัวและแตกได้
  3. จอดพักจนกว่าความร้อนจะลดลง และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำทันที เพราะแรงดันน้ำที่เกิดจากความร้อนสูงอาจทำให้น้ำในหม้อน้ำพุ่งออกมาจนลวกมือได้ ให้รอเครื่องเย็นลงสักหน่อย ราว 15-20 นาที หรือจนกว่าหม้อน้ำจะเริ่มเย็น
  4. เมื่อเครื่องยนต์เริ่มคลายความร้อน อุณหภูมิเริ่มลดลง ให้เปิดฝาหม้อน้ำออกทีละนิด โดยใช้ผ้าหนา ๆ จับระหว่างเปิดฝา
  5. จากนั้นลองเติมน้ำกลับเข้าไปให้อยู่ในระดับที่มีขีดสัญลักษณ์กำหนด หากไม่มีความผิดปกติใด ๆ และอุณหภูมิคงที่ ก็ยังพอขับต่อไปได้ แต่ต้องคอยสังเกตอาการอยู่ตลอด
  6. หากมีความจำเป็นต้องเดินทางหลังจากนี้ เช่น ขับไปอู่ซ่อมรถยนต์ใกล้ฉัน ขับกลับไปจอดที่บ้าน ควรจอดพักรถเป็นระยะตามความเหมาะสม ห้ามขับยาวรวดเดียวโดยไม่พัก เพราะอาจทำให้เครื่องพังและลามไปยังชิ้นส่วนอื่น ๆ

เชื่อว่าหลายคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คงเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนเกินไปเป็นอย่างดีแล้ว แต่ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด ๆ ขึ้น นอกจากจะมีเบอร์โทรฉุกเฉินติดเครื่องเอาไว้แล้ว การมีประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ ก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญมาก ๆ เช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน หรือรถแบตหมด เรียกประกันได้ทันที ช่วยให้คุณไม่ต้องจมอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง

คำจำกัดความ
อิเล็กโทรไลต์ สารที่เมื่อละลายในน้ำจะนำไฟฟ้าได้ เนื่องจากมีไอออนซึ่งอาจจะเป็นไอออนบวก หรือไอออนลบเคลื่อนที่อยู่ในสารละลาย
น้ำกลั่น น้ำที่ผ่านขั้นตอนการทำน้ำให้ระเหยแล้วกลั่นตัวกลับเป็นหยดน้ำ มีความบริสุทธิ์สูง และปราศจากสิ่งเจือปน ใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม
น้ำหล่อเย็น น้ำยาสำหรับใช้ในการหล่อเย็นเครื่องยนต์ที่มีการผสมสารไกลคอลลงไป เพื่อช่วยขยายจุดเดือดให้ถึง 120-150 ⁰c

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่