หากเกิดอุบัติเหตุจาก รถ ไม่มี พร บ ใช้สิทธิบัตรทองได้ หรือ ไม่ ?

แชร์ต่อ
เกิดอุบัติเหตุจากรถไม่มี พรบ ใช้สิทธิบัตรทองได้หรือไม่

นับเป็นอีกหนึ่งคำถามที่คนมีรถหลายคนให้ความสนใจ หากเกิดอุบัติเหตุจากรถ และ รถ ไม่มี พร บ ใช้สิทธิบัตรทองได้ หรือ ไม่ จะดูแลค่ารักษาให้หรือเปล่าสำหรับบัตรทอง MrKumka ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้แบบครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจาก พรบ. / การใช้สิทธิบัตรทอง รวมถึง “ประโยชน์” ของประกันภัยรถยนต์

โดยทั้ง 3 ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร และแบบไหนช่วยให้คุณรับมือกับ “ค่าใช้จ่าย” ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กับเราได้เลย

รู้ก่อนเรื่อง พรบ.รถยนต์ ก่อนรู้เรื่อง รถ ไม่มี พร บ ใช้สิทธิบัตรทองได้ หรือ ไม่

พรบ. ย่อมาจากคำว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยรถ” กฎหมายข้อบังคับให้รถทุกคันที่วิ่งบนถนนเมืองไทยโดยจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จะต้องมี บังคับเหมือนเป็น “หลักประกัน” ให้กับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนในการรับสิทธิความคุ้มครองและรับค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นเนื่องมาจากอุบัติเหตุ เป็นเหมือน “เงินกองกลาง” ที่รถทุกคันได้ทำไว้ ซึ่งมีความคุ้มครองดังต่อไปนี้

4 ขั้นตอน เคลม พรบ. ต้องรู้

ค่าเสียหายเบื้องต้น

พรบ. จะให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร “หลังเกิดอุบัติเหตุทันที” โดยไม่จำเป็นต้องรอพิสูจน์ว่าใครถูกหรือผิด ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยภายใน 7 วัน ตามเงื่อนไขดังนี้

  1. กรณีบาดเจ็บ จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดคนละไม่เกิน 30,000 บาท
  2. กรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดคนละไม่เกิน 35,000 บาท
  3. กรณีสูญเสียอวัยวะตามมา ได้รับเงินชดเชยสูงสุดไม่เกินคนละ 65,000 บาท
  4. กรณีรักษาพยาบาลแล้วเสียชีวิต จะได้รับค่าชดเชยคนละไม่เกิน 65,000 บาท

ค่าสินไหมทดแทน

ค่าสินไหมทดแทน คือ “เงินชดเชย” ที่ผู้ที่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นฝ่ายถูก จะได้รับค่าสินไหมทดแทนทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ดังนี้

  1. หากได้รับบาดเจ็บคุ้มครองค่ารักษาตามจริง คนละไม่เกิน 80,000 บาท
  2. เหตุเสียอวัยวะ มีหลักเกณฑ์การรับเงินชดเชย ต่อไปนี้
    • 300,000 บาท กรณีเสียอวัยวะ 2 ส่วนขึ้นไป
    • 250,000 บาท กรณีเสียอวัยวะ 1 ส่วน
    • 200,000 บาท หากเสียนิ้วตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป
  3. กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจริง คนละไม่เกิน 500,000 บาท
  4. ได้รับค่าชดเชยการรักษาตัว กรณีผู้ป่วยในได้รับค่าชดเชยวันละ 200 บาท ในระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน

4 ขั้นตอน เคลม พรบ. ต้องรู้

การเคลม พรบ. คือ การเรียกร้องสิทธิประโยชน์ของผู้มี พรบ. หรือประกันภัยใด ๆ ก็ตาม ซึ่งการขอใช้สิทธิ์ พรบ.จะต้องดำเนินการ “ภายใน 180 วัน” หลังจากวันที่เกิดเหตุ สำหรับขั้นตอนการเคลมมีดังนี้

  1. หลังจากนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลว่า “ขอใช้สิทธิ์เบิกตาม พรบ.” และอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เหตุเกิดที่ไหน เกิดได้อย่างไร รวมถึงแจ้งเลขทะเบียนรุ่น รถที่เกี่ยวข้อง
  2. ทางโรงพยาบาลจะดำเนินการประสานงาน เพื่อดูแลสิทธิ์การเคลมตาม พรบ. ซึ่งส่วนมากจะมีหน่วยงานภายในดูแลด้านนี้อยู่แล้ว
  3. ไปลงบันทึกประจำวันและดำเนินการสอบสวนนำมาเป็นหลักฐานในการเคลมค่าสินไหมที่ต้องพิสูจน์ว่าผู้ขับขี่เป็น “ฝ่ายถูก”
  4. ไปยื่นเอกสารการเคลม ณ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยใน 180 วันหลังเกิดเหตุ ใน 7 วันทำการจะได้รับเงินชดเชยหลังจากเรื่องที่ยื่นอนุมัติ

หากค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงิน สามารถหักค่าใช้จ่ายจากสิทธิอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ประกันสังคม, 30 บาทรักษาทุกโรค หรือแม้แต่ประกันสุขภาพและประกันชีวิต หลังจากนั้นคุณจะได้รับค่าชดเชยตามสิทธิ์ภายใน 7 วันหลังจากยื่นเอกสารครบถ้วน แนะนำให้เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ โดยสามารถสอบเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลได้เลย หรือโทร.1791

อุบัติเหตุจากรถ แต่ไม่มี พรบ. ไม่มีใบขับขี่ จะใช้สิทธิบัตรทองได้หรือเปล่า ?

กรณีเกิดอุบัติเหตุจากรถ รถชน รถล้มเอง หรืออื่น ๆ หากไม่มี พรบ. ไม่มีใบขับขี่ “ไม่สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้” ซึ่งคุณจะต้องจ่ายค่ารักษาเบื้องต้นเกิน 30,000 บาทเองก่อน จึงจะสามารถใช้สิทธิบัตรทองในส่วนที่เกิน 30,000 บาทได้ ยกตัวอย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาล 40,000 บาท คุณจะต้องรับผิดชอบเอง 30,000 บาท และใช้สิทธิบัตรทองอีก 10,000 บาท ในกรณีที่ไม่มีเงิน สามารถขอใช้สิทธิ์ได้ไม่เกิน 15,000 บาท แต่จะโดนเรียกเก็บย้อนหลัง พร้อมดอกเบี้ยอีก 20%

ไม่อยากกังวลกับเรื่องค่าใช้จ่าย ประกันภัยรถช่วยได้ !

หากคุณต้องการ “เพิ่มความอุ่นใจ” ให้กับเดินทาง และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุต่าง ๆ “ประกันภัยรถยนต์” นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ช่วยคุณได้

ในปัจจุบันมีประกันภัยรถยนต์ให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชั้น 1, 2+, 3+ และอื่น ๆ ที่ให้ความคุ้มครองและมีเบี้ยประกันแตกต่างกันออกไป แนะนำให้เลือกซื้อกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์การขับขี่ของตัวเองให้มากที่สุด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล และค่าซ่อมรถเพียงลำพังอีกต่อไป

เป็นอย่างไรกันบ้าง ? สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับ พรบ.รถยนต์ บัตรทอง และประกันภัยรถยนต์ที่เรานำมาบอกต่อในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ? เพราะทั้ง 3 สิ่งข้างต้น ล้วนให้ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหาก พรบ.รถยนต์หมดอายุ ก็ควรจะดำเนินการต่อให้เรียบร้อย แล้วถ้าหากต้องการความอุ่นใจที่เพิ่มขึ้น “ประกันภัยรถยนต์” ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีมาก ๆ หากไม่รู้จะซื้อประกันแบบไหน สามารถเข้ามา “เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์” ได้ที่เว็บไซต์ MrKumka.com ก่อนได้

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่